ผบช.สตม.แถลงรวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนหนีซุกไทยตั้งเครือข่ายพนันออนไลน์เงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้าน
เมื่อวันที่ 20 พ.ย. พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต. อาชยน ไกรทอง พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน)กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.สส.สตม. ร่วมกับ บช.ทท. และ ศปอส.ตร. ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาชาวจีน 10 ราย ตามที่ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) ได้รับการประสานจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนในประเทศไทย ให้ช่วยติดตามจับกุมและส่งตัวผู้ต้องหาหลบหนี คดีฉ้อโกงประชาชนผ่านโทรศัพท์ หรือ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ชาวจีน จำนวน 17 ราย โดยมีกองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เป็นผู้ประสานการปฏิบัติน
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สตม. และ ศปอส.ตร. ได้สืบทราบจนพบตัวผู้กระทำความผิดที่หลบหนีเข้ามาพำนักในประเทศไทย และได้ขอศาลอนุมัติหมายค้นทั้ง 4 จุด ในวันที่ 20 ม.ค.บื้องต้นพบตัวผู้กระทำความผิดพร้อมของกลาง ดังนี้ 1. ผู้ต้องหา จำนวน 10 ราย (เป็นบุคคลตามหมายจับจีน จำนวน 6 ราย) 2. คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก จำนวน 19 เครื่อง 3. โทรศัพท์มือถือ 79 เครื่อง 4. ซิมการ์ดโทรศัพท์ จำนวน 167 อัน 5. อุปกรณ์กระจายสัญญาณ เครื่องส่งโอทีพี อุปกรณ์ Token ที่ใช้ทำเว็บพนันออนไลน์กว่า 300 รายการ 6. นาฬิกาหรู 14 เรือน 7. สมุดบัญชี จำนวน 10 เล่ม 8. รถยนต์ 3 คัน จักรยานยนต์ 1 คัน โดยพบว่า ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้มีการเปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์เงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาท และพบว่ามีผู้ต้องหาตามหมายจับหลบหนีออกนอกประเทศไปก่อนหน้านี้แล้วจำนวน 2 ราย โดยชุดสืบสวน สตม. และ ศปอส.ตร. จะติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ในประเทศไทยต่อไป