นักข่าว ช่างภาพ ทำเนียบรัฐบาลเกือบเป็นข่าวเสียเอง ขณะติดตามนายกฯ เปิดประชุมองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หลังลิฟท์โรงแรมหรู ตกและค้างนานเกือบ 50 นาที
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 20 ธ.ค. ที่โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน เขตบางรัก กทม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และห้วหน้า คสช.ได้พบปะกับนายฟางฟ่าง หลิว เลขาธิการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) เข้าเยี่ยมคารวะ จากนั้นนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดการประชุมระดับภูมิภาคขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนจะเริ่มพิธี ผู้สื่อข่าว ช่างภาพ และผู้ช่วยช่างภาพประมาณ 9 คน ได้ขึ้นลิฟท์มาจากลานจอดรถ เพื่อขึ้นมายังชั้น 2 ของโรงแรม ซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน ปรากฏว่าเกิดลิฟท์ค้างและตกลงมายังชั้น G อย่างแรงสร้างความตกใจ ให้กับผู้ประสบเหตุทุกคน ซึ่งได้กดปุ่มติดต่อขอความช่วยเหลือ โดยพนักงงานโรงแรมได้สอบถาม ถึงจำนวนผู้ที่อยู่ในลิฟท์ พร้อมบอกจะเร่งประสานให้เจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ แต่ปรากฎว่าเวลาผ่านไป 10 นาทีแรก ก็ยังไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดเข้ามาช่วย จึงได้ขอความช่วยเหลือไปอีกครั้งก็ได้รับคำตอบว่า แจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายช่างแล้ว ขณะที่อากาศภายในลิฟท์เริ่มน้อยลง ทำให้นายวัฒนะ เจียมพุดซา ผู้ช่วยผู้สื่อข่าวสำนักข่าวเนชั่น และนายชยพัทธ์ วิรัชกุล อายุ 61 ปี พนักงานขับรถหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง เริ่มมีอาการเวียนศีรีษะทรุดลงนั่งกับพื้น เพื่อนจึงปฐมพยาบาลเบื้องต้น นำนาดมไปบรรเทา จนเวลาผ่านไป 20 นาที ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข ทุกคนพยายามติดต่อเพื่อนผู้สื่อข่าวด้านนอก ให้ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่องัดลิฟท์ออกเบื้องต้น เพื่อให้มีอากาศหายใจ จนผ่านไปอีก 20 นาที หลังจากที่กลุ่มผู้สื่อข่าวและเพื่อนช่างภาพได้ไปกดดันให้เจ้าหน้าที่เร่งงัดประตูลิฟท์ออก เจ้าหน้าที่ฝ่ายช่างถึงยอมงัดประตูลิฟท์ออก ทั้งนี้เมื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุออกมาได้เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาขอโทษ ในความไม่สะดวก และแก้ไขลาช้า โดยระบุสั้นๆเพียงว่า หากท่านใดรู้สึกมีอาการไม่ดีเรามีพยาบาลดูแล
ผู้สื่อข่าวรายหนึ่งที่ประสบเหตุ กล่าวว่า รู้สึกตกใจในช่วงที่ลิฟท์ตก แต่คิดว่าโรงแรมมีชื่อเสียงขนาดนี้ เมื่อได้รับแจ้งก็คงได้รับความช่วยเหลือทันที ในช่วงแรกยังได้มีการถ่ายรูปเป็นที่ระลึก แต่ปรากฎว่าการช่วยเหลือล่าช้า จนทำให้มีบางคนเริ่มเกิดอาการเวียนศีรษะ และการติดต่อกับเจ้าหน้าที่โรงแรมก็ไม่รับการตอบรับที่เร่งด่วน ล่าช้า ยังโชคดีที่ช่วงแรกสามารถติดต่อเพื่อนที่ด้านนอกได้ และหากไม่ได้รับการกดดัน การช่วยเหลือก็อาจจะล่าช้ากว่านี้ ไม่อยากคิกว่าจะเกิดอะไรขึ้นโดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ประสบเหตุ แต่ขอบคุณที่ผู้บริหารโรงแรมชาวต่างประเทศที่เข้าใจและเร่งช่วยเหลือเมื่อทราบเหตุ ไม่ห่วงแค่ทรัพย์สินของโรงแรม แทนชีวิตของคนที่ติดอยู่ และไม่อยากคิดว่าถ้าลิฟท์ตัวนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ใช้แล้วการช่วยเหลือจะเป็นอย่างไร หวังว่าการให้บริการต่อไปกับคนอื่นๆจะไม่ประสบปัญหาเช่นคนนี้

ผู้ช่วยช่างภาพสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า ระหว่างกดลิฟท์จากชั้นG เพื่อมายังสถานที่จัดการประชุมชั้น 2 ปรากฎว่าลิฟท์เคลื่อนตัวแล้วกระชากเสียงดัง ก่อนจะค้างอยู่ จึงแจ้งขอความช่วยเหลือ ตอนแรกยังรู้สึกปกติ เพราะคิดว่าลิฟท์ค้างธรรมดา และไม่นาน ช่างน่าจะมาแก้ไขได้ แต่ปรากฎว่าไม่มีเสียงตอบรับ หรือแจ้งจากเจ้าหน้าที่ด้านนอก เมื่อติดอยู่ด้านในนานประกอบกับคนเยอะ อากาศหายใจเริ่มน้อยลง ส่งผลให้ทุกคนเริ่มเวียนหัว โดยเฉพาะผู้ช่วยช่างภาพช่องหนึ่งซึ่งอายุเยอะ เริ่มนั่งลงและเวียนหัวจะอาเจียน เวลาผ่านไปกว่า 30 นาทีเจ้าหน้าที่จึงงัดประตูลิฟท์ ช่วยทุกคนออกมาได้ พร้อมตั้งคำถามว่า เหตุใดการให้ความช่วยเหลือถึงล่าช้า ทั้งที่เป็นโรงแรมชื่อดัง ที่สำคัญไม่มีเจ้าหน้าที่คอยสอบถามความเคลื่อนไหว หรือแสดงความเป็นห่วง แต่ปล่อยให้คนด้านในคอยถามแทนว่าดำเนินการถึงไหนอย่างไร