"ทิพานัน"แจงคนละครึ่งเฟส 4 ลงทะเบียน 14 ก.พ. ใช้จ่ายได้ 21 ก.พ. ปลื้มชาวบ้านขอบคุณรัฐบาลดันโครงการงเร็วขึ้น
เมื่อวันที่ 17 ม.ค. น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนในเขตจอมทอง-ธนบุรี ได้สอบถามถึงความคืบหน้าโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ซึ่งตนได้ชี้แจงว่ารัฐบาล จะเปิดให้พี่น้องประชาชนลงทะเบียนรับสิทธิตามโครงการได้ในวันที่ 14 ก.พ. 2565 นี้ เพื่อให้สามารถโอนเงินให้กับประชาชนได้ใช้จ่ายในวันที่ 21 ก.พ. 2565 ซึ่งเร็วขึ้นกว่าแผนเดิมที่กำหนดไว้ในเดือน มี.ค.เพื่อแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของพี่น้องประชาชน และกระตุ้นการใช้จ่าย เนื่องจากการปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19สายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งจะเป็นกลไกการช่วยเหลือค่าใช้จ่าย-ราคาสินค้า ซึ่งพี่น้องประชาชนที่ตนลงพื้นที่ก็ได้กล่าวขอบคุณรัฐบาล โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีที่มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน ที่ตัดสินใจรวดเร็วในการออกมาตราช่วยเหลือ
ส่วนกรณีที่ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรคเพื่อไทยออกมากล่าวหานายกรัฐมนตรี ละเลยทุกข์ของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้นนั้น น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ละเลยความทุกข์ของพี่น้องประชาชน ที่ผ่านมาได้มีสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ติดตามสถานการณ์ปัญหาราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด และรัฐบาลได้ตรึงราคาสินค้าจำเป็นทั้งอาหาร และพลังงาน ทั้งราคาไก่หน้าฟาร์ม และราคปลีกเป็นระยะเวลา 6 เดือน ราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มกำหนดราคาจำหน่ายที่ 2.90 บาทไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย รวมไปถึงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และน้ำอัดลม พร้อมกันนี้ยังตรึงราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ที่ 318 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัมไปอีก 2 เดือน ราคาขายปลีกก๊าซ NGV ที่ 15.59 บาท/กิโลกรัม และคงราคาขายปลีกก๊าซ NGV โครงการ "เอ็นจีวี เพื่อลมหายใจเดียวกัน" ให้กับผู้ประกอบอาชีพขับขี่รถแท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ 13.62 บาท/กิโลกรัม ต่อไปอีกเป็นระยะเวลา 1 เดือน
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่าจากคำพูดของน.ส.ธีรรัตน์ ที่ระบุชัดเจนว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์เคยสร้างแคมเปญโจมตีรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเอาไว้เมื่อปี 2556 วันนี้ระเบิดเวลาย้อนมาเอาคืน เห็นได้ชัดว่า จุดมุ่งหมายการให้ข่าวไม่ได้เห็นแก่ประโยชน์ และความเดือดร้อนของประชาชนอย่างแท้จริง หวังแค่จะเอาคืนแก่เผ็ดทางการเมือง ถือเป็นวิถีการทำการเมืองที่ยิ่งทำยิ่งด้อยค่าพรรคตัวเอง ทุกวันนี้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาทุกด้านให้ประชาชน จะเห็นได้ว่านายกฯ และรัฐบาลตั้งใจมุ่งมั่นแก้ไขปัญหา โดยการออกมาตรการเยียวยาช่วยเหลือ ควบคู่ไปกับการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาวะวิกฤตนี้อย่างดีที่สุด และเร็วที่สุดให้ทันเวลาดังกล่าวข้างต้นไปแล้ว