ผบช.ภ.7 สั่งแจ้งข้อหาเพิ่มผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์หลบหนีส่งตัวเรือนจำเขาบิน
เมื่อวันที่ 16 ม.ค. พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการ จ.ประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ต.วันชัย ธารณธรรม ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.สุธี วรรณสูตร ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ร่วมสอบปากคำ 2 นักโทษเรือนจำ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่ก่อนหน้านั้นร่วมกับพวกรวม 4 คน มี นายสหรัฐ หรือจ๋า เสนามนตรี อายุ 28 ปี นายพงษกร หรือโจ้ แสงงาม อายุ 35 ปี นายธนวัฒน์ หรือต้า อยู่คง อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาในคดียาเสพติด และ นายพงษ์สิริ หรือบอม อินทผลา อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ โดยทั้งหมดสวมตรวนที่เท้าพากันวิ่งหลบหนีออกจากสถานที่กักกันโรคโควิด-19 ด้านข้างสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค สาขาประจวบคีรีขันธ์ ห่างจากเรือนจำประมาณ 500 เมตร เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ก่อนทั้งหมดจะถูกจับตัวได้ โดย นายพงษกร และ นายธนวัฒน์ นักโทษล่าสุดถูกจับได้ในพื้นที่ จ.เพชรบุรี
พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวว่า เบื้องต้นจะให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาเพิ่มเติมการหลบหนี และต้องดูว่าจะมีคดีใดเพิ่มเติมอีก นักโทษที่ก่อเหตุมีการวางแผนล่วงหน้าอย่างน้อย 4 วัน ซึ่งนักโทษทั้งหมด 26 คนอยู่ในแดนกักตัวดูอาการ ในขณะที่เจ้าหน้าที่เรือนจำ จ.ประจวบคีรีขันธ์ยกถังน้ำดื่มเปิดประตูห้องเข้าไป นักโทษ 8 คนได้กรูวิ่งสวนออกมาซึ่งเจ้าหน้าที่จับได้ทัน 4 คน ส่วนอีก 4 คน วิ่งหลบหนีก่อนตามจับได้หมดจนครบ อย่างไรก็ตามหากการสอบสวนว่าใครมีส่วนรู้เห็นในเรื่องการหลบหนีก็ต้องดำเนินคดีต่อไป โดยนักโทษที่หลบหนีครั้งนี้มีประวัติเรื่องยาเสพติดและต้องโทษมาแล้ว
นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า จุดที่นักโทษหลบหนีออกไปเป็นสถานที่กักโรคก่อนที่จะเข้าไปยังเรือนจำประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเมื่อได้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ต่อไปก็ต้องมีมาตรการเพิ่มเติมมากกว่านี้ เนื่องจากเป็นมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างไรก็ตาม นักโทษที่ก่อเหตุทั้งหมดจะถูกส่งไปเข้าเรือนจำเขาบิน จ.ราชบุรี โดยทันที
ด้านนายเสถียร เจริญเหรียญ ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ได้กล่าวขอบคุณ ผบช.ภ.7 เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายและสื่อมวลชนที่เสนอข่าวจนสามารถติดตัวจับตัวนักโทษที่หลบหนีได้ทั้งหมดหลังก่อเหตุ