ตือโป๊ยก่ายเรียกแม่"ฝ้าย แอมฟายน์"ขึ้นเขียงโมดิฟายทั้งร่าง

2017-12-19 18:55:23

ตือโป๊ยก่ายเรียกแม่"ฝ้าย แอมฟายน์"ขึ้นเขียงโมดิฟายทั้งร่าง

Advertisement

ฝากผลงานไว้ก็มากมาย ทำชื่อเสียงไว้จนใครๆ รู้จักกันดี เพราะเธอคนนี้มีน้ำเสียงเป็นเอกลักษณ์ และได้กลายเป็นนักร้องดังสังกััดลาดพร้าว พูดไปหลายคนคงนึกไม่ออก ต้องบอกไปถึงงานเพลง รับรองร้องอ๋ออออ ... กันทุกตัวตนคนยุคนั้น อาทิ มารักทำไมตอนนี้, ทำไมไม่รับสักที, เหตุผลที่ทนเหงา, เปลี่ยนแฟนหลายหน (ไม่ใช่คนหลายใจ) เป็นต้น นึกออกกันแล้วสิ เธอคือ ฝ้าย แอมฟายน์ แต่ด้วยความไม่มั่นใจในความสวยของตัวเอง จะถ่ายมิวสิกฯ ทีไร ต้องเอาผมมาบังหน้าซะทุกที และเพื่อขจัดอุปสรรคใหญ่ของชีวิตออกไป งานนี้เธอเลยลุกขึ้นปฏิวัติตัวเอง ยอมเจ็บตัวอัพหน้าใหม่ ให้ไฉไลกว่าเดิม เพิ่มเติมความเซ็กซี่อีกด้วย วันนี้เธอมาเปิดใจในรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง one31






ลุคใหม่นี้ดูหวานไปเลยนะ?
“คือหนูทำงานตั้งแต่อายุ 16 แล้วค่ะ แล้วเรื่องของพัฒนาการความสวยในวัยเด็ก มันก็พัฒนาไปตามวัยเนอะ ยูทูบก็ไม่ได้เข้าถึงขนาดนี้”

อัพเกรดส่วนไหนมาบ้าง?


“ตั้งแต่ตอนแรกที่มีข่าวก็คือทำจมูก แต่ว่าหนูตัดปีกจมูกด้วย มันก็เลยดูค่อนข้างที่จะเปลี่ยนไป ตอนหลังมาทำตา ครั้งแรกทำไปเหมือนไม่ได้ทำค่ะ เลยไปทำมาใหม่ค่ะ มีฉีดฟิลเลอร์นิดนึง ส่วนในร่างกาย มีทำหน้าอกค่ะ แล้วก็เพิ่งไปดูดไขมันที่ขามา”



เห็นว่าไปทำผิวมาด้วย?
“คือคนชอบคิดว่าหนูไปฉีดผิวมาตลอดเวลา เพราะเห็นเรารีวิวคลินิก เราก็คือฉีดแต่เราไม่ได้ลงกระหน่ำขนาดนั้น แต่คนชอบคิดว่าเราไปฉีดบ่อยมาก เพราะในรูปแต่ก่อนเราดำมาก ผิวคล้ำมาก หนูดูแลตัวเองตั้งแต่ช่วงที่รู้จักคำว่าสวยงาม คือหนูทาครีมตั้งแต่ไหล่ลงมาทุกวัน เช้าเย็น เป็นครีมทาผิวธรรมดาค่ะ แล้วหาสูตรที่ทำให้ผิวกระจ่างใส แล้วฉีดก็คือยอมรับว่าฉีด แต่ไม่เกิน 5 ครั้งค่ะ”



จุดเปลี่ยนที่ตัดสินใจขึ้นเขียงคืออะไร?
“ที่ตัดสินใจก็คือหนูอยู่กับผู้ชายมาตลอด ไม่ได้แคร์เพราะว่าเราสวยที่สุด อยู่ตรงนี้เรามีผู้ชาย 3 คนในวง แต่พอเราได้ทำงานร่วมกับคนอื่น คนจะไม่เคยจำหน้าหนูได้เลย เวลาที่หนูถ่ายเอ็มวีทุกครั้งจะอยู่ในมุมที่ก้มหน้าตลอด เค้าคงเห็นว่าเราไม่สวยก็ได้ ถึงไม่มีมุมอื่นเลย”



แต่ก่อนมีคนเมาท์แรงเรื่องเรา?
“เยอะเลยค่ะ จริงๆ แล้วที่แรงๆ แต่ก่อนมันจะมีกระแสว่าเราเพิ่งทำหน้ามา แต่ล่าสุดที่เจอเค้าเอารูปสมัยตอนที่หนูเป็นวง 3 คน แล้วเอารูปสมัยที่หนูหันข้างมาเป็นภาพแตกๆ แล้วบอกว่า นี่หน้านางสมัยก่อนเหมือนตือโป๊ยก่ายเลย แล้วเพื่อนก็ส่งมาบอกว่า คนเมาท์รูปหน้าเก่าเราสนุกปากเลย ด้วยความที่เราผ่านอะไรมาเยอะ มันก็ชั่งใจ แล้วทีนี้เราไปเห็นคอมเมนต์หนึ่งที่มาเมนต์ว่าเรา เราก็เลยเข้าไปตอบ ซึ่งน้องคนนั้นดูเป็นตุ๊ด แล้วอ้วนๆ หน่อย ดูเผละเลย เราก็ตอบกลับไปว่า น้องคะที่ว่ามานี่คือว่าตัวเองรึเปล่าคะ แล้วนางก็ตอบกลับมาว่า อุ๊ย แซวเล่นๆ ค่ะคุณพี่ขา เราเจอตรงนี้มาเยอะ แล้วเรารู้สึกว่า พอเราได้พูดตรงนี้ ก็เหมือนเราได้สบายใจมากขึ้น คือโลกออนไลน์สมัยนี้ ไม่ใช่ว่าเค้ามาเมนต์แล้วเราจะไม่เห็น เราก็สามารถที่จะเห็นได้ เพราะฉะนั้น ถ้าจะเมนต์อะไรก็ฝากบอกทุกคนว่า ใจเค้าใจเราเนอะ ถ้าเป็นเพื่อนเรามาเมนต์เรายังอยากจะด่ากลับเลย แต่ว่าเราเป็นคนที่อยู่ต่อหน้าทุกคน เราก็ไม่อยากจะว่าใคร ในทางกลับกันคุณก็ต้องเห็นใจเค้าด้วยเหมือนกัน”





มีข่าวว่าเราเป็นคุณโสไฮโซ?
“มีจริงค่ะ คือว่าด้วยลุคแต่ก่อนหนูจะเป็นคนดูห้าวๆ ลุยๆ เราทำงานมาตั้งแต่เด็ก แล้วพอเราโตขึ้นเราอยู่ในสังคมที่เปลี่ยนไป เราอยากมีออฟชั่นมากขึ้น แล้วเราก็ชอบถ่ายรูปลง ใครก็ชอบถ่ายรูปแบบชีวิตดีลง พอเราโพสต์ลงปั๊บ ก็มีคนมาเขียนแบบนี้ อีกอย่างช่วงนั้นหนูไปต่างประเทศบ่อยด้วย เพราะชอบเที่ยว คนก็เลยมองว่า ไปเอ็นเตอร์เทนใครรึเปล่า”





ก่อนทำศัลยกรรมมีคนเมาท์แบบนี้มั้ย?
“ไม่มีคนพูดถึงเลยค่ะ”

ยืนยันว่าเงินที่เราใช้ทุกบาททุกสตางค์ คือเราทำงานมาตั้งแต่เด็ก?
“ถ้าซื้อจริงๆ ก็มาบอกเลยค่ะว่าคนไหน เพราะเรามั่นใจอยู่แล้วว่าเราไม่มีทางทำอย่างนั้น”