โฆษกกรมกรมราชทัณฑ์แจงสถานการณ์เรือนจำศรีสะเกษ ย้ายตัวผู้ต้องขังหัวโจกที่ก่อเหตุ 35 คน ไปเรือนจำกลางระยองแล้ว แจงทะเลาะวิวาทเรื่องส่วนตัว พร้อมทั้งตั้งกรรมการสอบสวนลงโทษทางวินัยเอาผิดผู้ต้องขังก่อเหตุทุกคน
เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และโฆษกกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึง กรณีเกิดเหตุการณ์ผู้ต้องขัง 2 กลุ่ม ก่อการทะเลาะวิวาท เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2564 โดยเหตุการณ์ดังกล่าว สืบเนื่องจากวันที่ 25 ธ.ค.2564 เวลาประมาณ 16.40 น. ได้มีผู้ต้องขัง 2 กลุ่มก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันบนเรือนจำ เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการควบคุมผู้ก่อเหตุมาอบรม/ว่ากล่าวตักเตือน โดยคู่กรณีรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงได้แยกกลุ่มผู้ต้องขัง และดำเนินการตามกฎหมาย ต่อมาวันที่ 26 ธ.ค. 2564 เวลาประมาณ 09.20 น. เกิดเหตุผู้ต้องขังกลุ่มดังกล่าว ยกพวกเข้าทำร้ายร่างกายกัน ภายในบริเวณแดน 2 สนามกีฬา ทางเรือนจำ จ.ศรีสะเกษจึงได้ระดม กำลังเจ้าหน้าที่ทุกนาย และประสานขอรับการสนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่จากสถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ จำนวน 50 นาย พร้อมทั้งประสานรถน้ำดับเพลิงจากเทศบาลเมืองศรีสะเกษ และประสานรถ EMS จากโรงพยาบาลศรีสะเกษ เพื่อร่วมอำนวยการระงับเหตุร้าย และได้คัดแยกผู้ต้องขังที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกไว้เพื่อควบคุมสถานการณ์ จนกระทั่งเวลาประมาณ 10.00 น.สามารถระงับเหตุการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยได้ส่งผู้ต้องขังที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ จำนวน 2 ราย
นายธวัชชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการป้องปรามและป้องกันการก่อเหตุทะเลาะวิวาทซ้ำอีก จึงจำเป็นต้องย้ายผู้ต้องขังกลุ่มที่ก่อเหตุไปเรือนจำความมั่นคงสูง และเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. เรือนจำจังหวัดศรีสะเกษได้รวบรวมรายชื่อผู้ต้องขังกลุ่มที่ก่อเหตุ จำนวน 35 ราย ไปคุมขังที่เรือนจำกลางระยอง เรียบร้อยแล้ว โดยผู้ต้องขังกลุ่มดังกล่าวได้ทำการตรวจหาเชื้อโควิด - 19 ด้วยวิธี ATK ผลเป็นลบทุกราย รวมทั้งได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด - 19 จำนวน 2 เข็ม โดยเข็มที่ 2 ได้รับการฉีดตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2564 ตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อโควิด - 19 อย่างเคร่งครัด