ฟ้าหลังพายุฝน "แตงโม นิดา" เปิดหมดเปลือกจากจุดดิ่งสุดของชีวิต

2021-12-25 12:30:11

ฟ้าหลังพายุฝน "แตงโม นิดา" เปิดหมดเปลือกจากจุดดิ่งสุดของชีวิต

Advertisement

เป็นนักแสดงสาวอีกหนึ่งคนที่หลายจับตามองทุกเรื่องราวชีวิตและความรัก สำหรับ แตงโม ภัทรธิดา หรือ แตงโม นิดา เส้นทางในวงการบันเทิงเธอเริ่มเข้าวงการมาตั้งแต่ตอนเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จากการที่มีแมวมองมาเจอและชวนไปเทสต์งาน ซึ่ง แตงโม ได้ไปเทสต์หน้ากล้อง และถ่ายโฆษณา ก่อนจะเข้าประกวด มิสทีนไทยแลนด์ ปี 2002 (พ.ศ. 2545) และได้ตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 4 จากนั้น แตงโม ภัทรธิดา ก็ได้เข้ามาเป็นผู้ประกาศของช่อง 7 ก่อนจะแสดงละครเรื่องแรกเรื่อง เบญจา คีตา ความรัก ก่อนจะแจ้งเกิดแบบเต็มตัวกับบทนางเอกในละครดราม่าครอบครัวเรื่อง อุ่นไอรัก ในบท กาเหว่า จากนั้นเธอก็มีผลงานละครให้ได้ชมกันมากมาย



เมื่อได้มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 แตงโม นิดา ได้มาเปิดเรื่องราวในชีวิตพร้อมความรักแบบทุกซอกทุกมุมในใจ เพราะอุ่นใจที่ได้มานั่งคุยมานั่งเล่าที่นี่เป็นที่แรกแบบหมดเปลือก จุดที่ตกต่ำที่สุดในชีวิตของ คือช่วงที่คุณพ่อป่วย แตงโมแทบจะนอนติดเตียง น้ำไม่อาบ ผมไม่สระ ฟันไม่แปรง ข้าวแทบไม่กินอยากตายอย่างเดียว ความรักที่ทุกข์ที่สุดของ “แตงโม นิดา” เป็นความรักที่ทำให้อาการโรคซึมเศร้าเป็นหนักกว่าเดิมมาก แต่ถ้าถามถึงสาเหตุที่ทำไมยังทน พร้อมเล่าอาการเมื่อหลุดพ้นจากแฟนเก่าที่เคยทำให้ทุกข์ ทุกคนในบ้านรวมถึงคนรอบข้าง พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า แตงโมคนเดิมกลับมาแล้ว รับบทเป็นใครอยู่ตั้ง 2 ปี พร้อมเปิดใจเมื่อก่อน เคยคิดน้อยใจว่า ทำไมชีวิตต้องเจอแต่เรื่องแย่ๆ แต่ตอนนี้กลับมองว่า ดีจังเลยที่ชีวิตมีแต่เรื่องแย่ ทำให้แข็งแกร่งมากขึ้น และกลับมาเป็นแตงโมที่มั่นใจ แต่กว่าจะกลับมาได้ก็ต้องใช้เวลา เรียกว่าฟ้าหลังฝน มันดีขึ้นมากจริงๆ และ ผ่านมาแล้วกับทุกความหึงหวง อยากเป็นเจ้าของ ตีกรอบให้แฟน แต่ ณ วันนี้ ไม่เป็นแบบนั้นแล้ว และกลายเป็นคนที่รักเป็น คือ รักแต่ไม่ครอบครอง




หลังจากนั้น แตงโม ก็มาเจอรักครั้งใหม่อีกและเป็นความรักที่ ณ วันนี้ แตงโม พูดว่ามันเป็นความรักที่ทุกข์ที่สุด?

แตงโม นิดา : เราเคยคบกับคนคนหนึ่ง ซึ่งทำให้อาการซึมเศร้าของเราหนักลงมากๆลงไกปเรื่อยๆจังหวะนั้นเราป่วยอยู่แล้ว แบบแต่งตัวอะไรอ่ะเหมือนกระหรี่เลยอะไรอย่างนี้ค่ะ คือ ตำหนิทุกอย่างชีวิตไม่เคยมีอะไรดีเลยอยู่ไปอยู่มารู้สึกตัวเองด้อยค่าลงเรื่อยๆหึงยันจิตแพทย์เลยค่ะ แบบเราอยู่แทบไม่ได้เลย



แต่โมก็อยู่มาตั้ง 2 ปี?

แตงโม นิดา : (หัวเราะเบาๆ) หนูทำไปเพื่ออะไรค่ะ พี่ คือ ตอนนั้นถ้าเขาไม่มีเราเขาจะน่าสงสารมาก

แล้วเขามาตามอีกไหม?

แตงโม นิดา : เขาไม่ได้มาเชิงมาตามนะคะ เขามาในทำนองว่า โมอยู่ได้หรือเปล่า โมอยู่ได้ไหมในขณะนั้น แต่ตอนนั้นคือ โมสนุกมากหนูหลุดแล้ว ทุกคนในบ้านบอกหนูว่า โมกลับมาแล้วอันนี้คือตัวเรา เราไปเป็นใครอยู่ตั้งสองปี

เคยมีบางครั้งไหมที่รู้สึกแบบทำไมชีวิตอย่างเรา ถ้ามองเข้ามาโมคือผู้หญิงสวยคนที่อยู่ในวงการบันเทิงประสบความสำเร็จในเรื่องงานเคยรู้สึกในบางอันไหมว่าทำไมเราต้องเจอแต่เรื่องแย่ๆขนาดนี้?



แตงโม นิดา : เมื่อก่อนเคยคิดค่ะ แต่พอเราคิดใหม่แล้วมันเป็นเรื่องที่ดีจังเลยที่ชีวิตมีแต่เรื่องเขาก็ภูมิใจใน โม ที่ โม เป็นเวอร์ชันนี้ แล้ว โม ได้ความเป็นตัวเองกลับมา โมมั่นใจมากขึ้นพูดมากขึ้น ถ้าเป็นเมื่อก่อน โมพูดไม่ได้เลยนะคะ ช่วงนั้นโมพูดแล้วสั่นกลัวพูดผิดหรือพูดถูกหรือเปล่ากว่าเราจะกลับมาเป็นแบบนี้ใช้เวลาค่อนข้างนาน ฟ้าหลังฝนมันก็ดีขึ้นมากจริงๆ

ความรักของน้องแตงโม อยู่ในโหมดไหน ?

แตงโม นิดา : อยู่ในโหมดความปลอดภัยค่ะ มันเป็นช่วงที่โมไม่สบายหนัก คือ โมแทบจะนอนติดเตียงเลย คือ ช่วงที่คุณพ่อป่วยแล้ว โมป่วยหนักมาก โมรับไม่ได้กับการที่คุณพ่อเป็นแบบนี้แบบน้ำไม่อาบ ผมไม่สระ ฟันไม่แปรงข้าวแทบไม่กินอยากตายอย่างเดียว โมอยู่จุดที่ตกต่ำสุดแล้วในชีวิตแต่เขายังมองเห็นค่าเราคนที่เขาทุกข์ไปกับเรามันหาได้ยาก



ถ้าย้อนกลับไปเราเคยเป็นคนขี้หึงปรี๊ดปร๊าดไหม?

แตงโม นิดา : เคยค่ะ เคยแต่ว่าน้อยค่ะ เพราะโมเป็นคนเก็บ โมไม่ชอบพูดเก็บแล้วก็มานั่งทุกข์คนเดียวรอหายเอง โมผ่านมันมาแล้วคือ ความหึงห่วงแล้วความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของหรือไม่ก็เป็นพวกตีกรอบให้แฟนตัวเองอะไรอย่างนี้ค่ะ โมไม่เป็นแบบนั้นแล้วสำหรับ ณ วันนี้




ถึงกับโมใช้คำว่า รักเป็นสำหรับวันนี้ นิยามคำว่ารักเป็นของ แตงโม มันคืออะไร รักเป็น?

แตงโม นิดา : รักเป็นของโม ก็คือ รักแต่ไม่ครอบครอง