รมว.ท่องเที่ยวแจงรัฐบาลยังไม่เคาะแก้กฎวาดาเป็น พ.ร.ก. หรือ พ.ร.บ. ระบุเดือน ม.ค.65 เตรียมเจรจาวาดาปลดล็อกแบนไทย
เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ทั้งนี้มีการพิจารณากระทู้ถามสดของนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ถามนายกรัฐมนตรี เรื่อง ประเทศไทยถูกลงโทษไม่ให้ชักธงชาติและใช้เพลงชาติไทย ในการแข่งขันกีฬาสากลโลก ว่า จากกรณีองค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (วาดา) แบนใช้ธงชาติไทยเป็นเรื่องหน้าอาย และรัฐบาลควรเร่งดำเนินการ เพราะเรื่องที่สาระน้อยกว่านี้รัฐบาลยังเสนอเข้าสภาได้ อีกทั้งมีเสียงข้างมากในสภาฯ ทำไมไม่ทำ ที่ผ่านมาวาดาเคยเตือนมาหลายครั้ง คล้ายกับเวียนรอบเมรุ จวนจะเข้าเตาเผา ตนสงสัยที่อ้างถึงอธิปไตยทำไม ทั้งที่วาดาไม่ได้จะยึดทำเนียบรัฐบาลเพื่อปลูกข้าว แต่คือการออกกติกาเพื่อใช้ร่วมกัน
“ผมไม่อยากตำหนิ แต่ขอเตือน ครม. ให้ทำวาระเร่งด่วน ร่าง พ.ร.บ.ร่วมลงชื่อแก้ไข ไม่ใช่ผิดพลาด กล่าวโทษ แต่ไม่แก้ไข ขอให้บอก มกราคมบรรจุวาระพิเศษจะมาตั้งแต่ 04.00 น. เพื่อนั่งรอ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นน่าอาย บอกว่าจะทำธงชาติ ติดที่แถบข้างกางเกง ติดที่หมวก หากท่านพูดแบบนั้น ผมเองสามารถนั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีแทนก็ได้” นายจิรายุ กล่าว
ด้านนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า วันที่ 28 พ.ย. ตนจะนำเรื่องดังกล่าวให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาถึงผลการเจรจากับวาดา ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และสำนักงานกฤษฎีกา หลังจากเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม มีผลการเจรจาเป็นที่พอใจของทั้ง 2 ฝ่าย และวาดาตอบรับการแก้ไข แล้ว และหลังวันที่ 28 ธ.ค.นี้ หากที่ประชุม ครม.มีมติอย่างไร ตนจะแจ้งให้สภาฯทราบ และคาดว่าหลังจากนั้นต้องส่งให้ สภาฯ พิจารณา ทั้งนี้ไม่แน่ใจว่า จะออกเป็น พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) หรือ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) และตนขอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร รีบบรรจุวาระ พิจารณาตามลำดับและขอให้ ส.ส.สนับสนุนในวาระแรก วาระสองและวาระสามด้วย เพื่อให้สามารถออกเป็นกฎหมายได้ภายในเดือนมกราคม และไมว่า ออกเป็น พ.ร.ก. หรือ พ.ร.บ.แล้ว หน่วยงานไทยจะเร่งหารือปลดล็อคโทษแบน เพื่อให้ทีมชาติไทยสามารถใช้ธงชาติไทยให้ทันแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ที่ประเทศจีน
นายพิพัฒน์ ชี้แจงด้วยว่า ตั้งแต่ปี 2562 วาดาเคยท้วงติงการทำงานของไทยมาต่อเนื่องและได้แก้ไขเป็นไปโดยลำดับ และล่าสุดที่เป็นเหตุให้วาดาแบนไทย เพราะก่อนหน้านั้นไม่สามารถยอมได้ เพราะมีประเด็นที่เกี่ยวกับอธิปไตยของประเทศไทย โดยใช้อำนาจเข้าไปตรวจโดยไม่แจ้งให้นักกีฬา สมาคมรับทราบในสถานที่ใดก็ได้ยามวิกาล ทั้งนี้ในประเทศไทย หากจะเข้าไปตรวจใครในยามวิกาลต้องขอหมายศาล ดังนั้นจึงท้วงติง เพราะรับไม่ได้ เนื่องจากกระทบสิทธิส่วนบุคคล ประเทศไทยเป็นรัฎฐาธิปัตย์ วาดาเป็นองค์กรเอกชน ที่กดดันให้ทำตามสิ่งที่ต้องการ โดยเฉพาะการออกกฎให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสารกระตุ้นกับนักกีฬาในสถานที่ใดก็ได้ และยามวิกาล ซึ่งผมและเชื่อว่าคนไทยทั้งชาติ ไม่ยอมรับหรืออยู่ใต้อาณัติใคร