คนไทยหวั่น "โอมิครอน"ระบาดปีใหม่

อนามัยโพลเผยคนไทยหวั่น "โอมิครอน"ระบาดช่วงปีใหม่ แนะจัดงานที่บ้าน ใช้สถานที่เปิดโล่ง ลดกอดสัมผัส กินสุก แยกภาชนะ ส่วนการจัดกิจกรรมที่ร้านต้องทำตามมาตรการเคร่งครัด

เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า อีกไม่กี่วันก็เข้าสู่ช่วงเทศกาลปีใหม่ที่มีทั้งคนเดินทางกลับภูมิลำเนาและการเดินทางท่องเที่ยวจำนวน แม้ว่าการติดเชื้อจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นขณะที่การได้รับวัคซีนก็ถึง 100 ล้านโดสแล้วนั้น แต่กระทรวงสาธารณสุขยังต้องเฝ้าระวังการระบาดของโรคโควิด-19 ต่อไป และยังมีข้อห่วงใยในการป้องกันตัวเองส่วนบุคคลเพื่อให้ปีใหม่เป็นปีสดใส ปีแห่งการเริ่มต้น เป็นปีแห่งความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว ทั้งนี้ ผลการสำรวจอนามัยโพล 1 -20 ธ.ค. 2564 พบประชาชน 82% ยังมีความกังวลใจว่าจะมีการระบาดของโรคโควิด 19 โดย 70% เห็นว่าเป็นช่วงที่มีการรวมกลุ่มทำกิจกรรมต่าง ๆ ทำให้มีโอกาสเกิดการระบาดใหม่ได้ และกลัวว่าจะมีการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนในประเทศด้วย ซึ่งกิจกรรมที่กังวล 5 อันดับแรกคือ 1. การรวมกลุ่มในสถานประกอบกิจการหรือกิจกรรมต่างๆ 67% 2. การเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือเดินทางเที่ยว ด้วยรถยนต์ส่วนตัว 3. การเดินทางด้วยรถขนส่งสาธารณะ 58% 4. การเดินทางมาจากต่างประเทศ 56% และการลักลอบเข้าประเทศผิดกฎหมาย 51% ส่วนสถานที่เสี่ยงเกิดการแพร่ระบาด 5 อันดับแรกคือ 1. สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ 64.49% เพราะที่ผ่านมาถึงยังไม่อนุญาตก็มีการลักลอบเปิด 2. สถานที่ท่องเที่ยว 59.76% 3. ตลาด 48.02% 4. ห้างสรรพสินค้า 44.86% และ 5. ขนส่งสาธารณะ 44.0 4%

นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า จากการสำรวจ พบประชาชน 84.35% มีแผนฉลองปีใหม่ที่บ้าน 17.01% ฉลองที่ร้านอาหาร 16.46% ร่วมกิจกรรม สถานที่ท่องเที่ยว ทั้งนี้ ขอย้ำว่า การจัดที่บ้านขอให้จัดในสถานที่เปิดโล่งอากาศถ่ายเทสะดวก ลดการสัมผัส โอบกอด เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อในกลุ่มเปราะบาง ในส่วนของอาหารนั้นขอให้รับประทานอาหารปรุงสุก มีภาชนะอุปกรณ์ส่วนตัว เว้นระยะห่าง อย่างไรก็ตามหากในบ้านมีกลุ่มเสี่ยงขอให้ลดการรวมกลุ่ม และยังคงสวมหน้ากากอนามัยและจัดงานที่บ้านก็ตาม ส่วนผู้ที่จะร่วมกิจกรรมปีใหม่ตามสถานที่ต่าง ๆ นั้นขอให้เลือกสถานที่ที่มีการประเมินและได้รับการรับรองมาตรการ covid Free Setting หรือ SHA PLUS การจัดที่สถานที่เปิดโล่ง เลี่ยงกรณีมีคนมาก แออัด และย้ำว่าจะต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการรวมกลุ่มดื่มสุรา ปฏิบัติตามกฎของสถานที่นั้น ๆ

เมื่อถามถึงกรณีมีการจัดงานเคาท์ดาวน์ที่มีการร้องเพลงถอดหน้ากากจะต้องปฏิบัติอย่างไร นพ. สุวรรณชัยกล่าวว่า ผู้จัดงานจะต้องเคร่งครัด ถือปฏิบัติตามมาตรการที่ได้ขออนุญาต ขณะที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หรือคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นผู้อนุญาตจะต้องมีการควบคุมกำกับอย่างเคร่งครัด ประชาชนที่ร่วมงานจะต้องให้ความร่วมมือและปฏิบัติตนเองภายใต้หลักการ Universal prevention หากไปร่วมงานแล้วพบว่ามีการจัดงานละเลยการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดจะต้องปกป้องตนเอง ด้วยการปฏิบัติมาตรการควบคุมป้องกันโรคส่วนบุคคล สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ ทั้งนี้ทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้จัดงานหรือผู้ร่วมงานจะต้องรับวัคซีนให้ครบถ้วน ประเมินตนเองว่ามีความเสี่ยงไปเจอคนที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อ มีไข้ โรคระบบทางเดินหายใจหรือไม่ หากมีความเสี่ยงให้ตรวจ ATK เลี่ยงการาร่วมกิจกรรม สังเกตตัวเองเป็นระยะเวลา 7 วัน เมื่อกลับเข้าระบบการทำงาน หลังปีใหม่ ต้องประเมินความเสี่ยงก่อนกลับเข้าทำงานหาเสี่ยงให้ตรวจ ATK ตามความเสี่ยง และพิจารณามาตรการตามความเหมาะสมขององค์กรได้.