ครอบครัว “น้องเมย” ไม่ไปฟังผลการเสียชีวิตวันนี้

2017-12-18 12:05:04

ครอบครัว “น้องเมย” ไม่ไปฟังผลการเสียชีวิตวันนี้

Advertisement

พี่สาว “น้องเมย” ยันครอบครัวยังไม่ไปฟังผลสรุป ปมน้องชายเสียชีวิตวันนี้ เพราะยังติดภารกิจ




เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.น.ส.สุพิชา ตัญกาญจน์ พี่สาวของนักเรียนเตรียมทหารภัคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือน้องเมย เปิดเผยว่า ในวันนี้จะไม่เดินทางมาฟังคำชี้แจงผลสอบข้อเท็จจริงกรณีการเสียชีวิตของน้องชาย ตามที่กองทัพไทยได้ทำหนังสือเชิญมา เพราะทางครอบครัวได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนเตรียมทหาร ซึ่งได้เดินทางมาแจ้งให้ไปรับฟังคำชี้แจงเกี่ยวกับรายละเอียดในวันที่ 18 ธ.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพไทย เนื่องจากติดภารกิจ และยังไม่ทราบว่าจะเดินทางไปเมื่อใด



สำหรับการดำเนินการต่อการเสียชีวิตของน้องชายหลังจากนี้ คงต้องขึ้นอยู่กับทางพนักงานสอบสวนที่ทำคดี แต่ครอบครัวจะยังคงเดินหน้าเพื่อหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเสียชีวิตของน้องเมย ต่อไป



ด้าน พล.อ.อ.ชวรัตน์ มารุ่งเรือง รองเสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า ยังไม่ทราบว่าญาติของนักเรียนเตรียมทหารภัคพงศ์ ตอบรับมาฟังผลการสอบสวนของคณะกรรมการฯ หรือไม่ แต่อยากให้ญาติเดินทางฟังคำชี้แจง เพราะสิ่งไหนที่ยังไม่พอใจ หรือคลางแคลงใจ ก็พร้อมชี้แจงในทุกแง่มุมที่สงสัย และมีหลักฐานเอกสารยืนยัน



ส่วนกรณีที่มารดาของผู้เสียชีวิตติดใจภาพจากกล้องวงจรปิดที่หายไป 4 ชั่วโมง ส่วนที่ไม่ปรากฏภาพในช่วงที่นักเรียนเตรียมทหารภัคพงศ์ ตกบันไดนั้น ขอชี้เแจงว่า บริเวณนั้นไม่มีกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะมีกล้องวงจรปิดทุกซอกทุกมุมในโรงเรียน หรือตลอด 24 ชั่วโมง แต่คณะกรรมการมีหลักฐานพยานแวดล้อมที่สอดคล้องกับคำให้การของพยานที่เห็นเหตุการณ์



อยากเรียนให้แม่ของนักเรียนเตรียมทหารภัคพงศ์ ทราบว่า การเสียชีวิตของนักเรียนเตรียมทหารในโรงเรียนเตรียมทหาร ไม่ว่าจะเป็นคนไหน ไม่ใช่เรื่องธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ ทหาร กำลังพล ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องรายงานให้ รมว.กลาโหม รับทราบ ซึ่งกองบัญชากากองทัพไทย ก็หัวอกเดียวกับพ่อและแม่ คือ เป็นผู้สูญเสียเหมือนกัน ไม่มีประโยชน์ที่จะให้ข้อมูลโต้ตอบไปมา เพียงแต่สงสัยอะไร หรืออยากได้ความกระจ่างในจุดไหนขอให้มาคุยกัน

ส่วนกระแสไม่เชื่อมั่นใน 11 คณะกรรมการของกองบัญชาการกองทัพไทยนั้น ยืนยันว่าทุกอย่างมีกฎระเบียบและข้อบังคับชัดเจน ซึ่งบางส่วนมีความรุนแรงกว่าพลเรือนด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นจึงไม่สามารถบังคับใครได้ แม้ทหารจะถูกสอนให้เชื่อฟังผู้บังคับบัญชา แต่ต้องเป็นคำสั่งที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น สุดท้ายหากเรื่องดังกล่าวต้องจบที่กระบวนการยุติธรรม ก็ต้องว่ากันด้วยพยาน หลักฐาน และเหตุผล ไม่ใช่อิงกระแสสังคม การโฆษณา หรือการตอบโต้กันผ่านสื่อ เพราะเชื่อมั่นในหลักฐานเอกสาร และพยานที่มีอยู่ ต่อให้พูดสักกี่ครั้ง ความจริงก็คือความจริง และไม่มีประโยชน์ที่พยานจะมาให้การเท็จ




ภาพ Facebook: กองบัญชาการกองทัพไทย ( Royal Thai Armed Forces )

ด้านพล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่า ในวันนี้ ได้ทำหนังสือเชิญไปแล้ว มองว่าทางครอบครัวอาจติดภารกิจ ซึ่งในส่วนผลการสอบสวนสาเหตุการเสียชีวิต ส่วนตัวมองว่า เป็นไปตามขั้นตอนการพิจารณา หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมที่อยู่ในกรอบ ที่คณะกรรมการพิจารณาก็สามารถชี้แจงได้ ก็จะดำเนินการ