"หมอตุลย์"' ร้อง "ชวน-พรเพชร"ตั้ง กมธ.สอบปมลดโทษผู้ต้องขังคดีโกง
เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ที่รัฐสภา นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ผู้ประสานงานกลุ่มพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน นำคณะกลุ่มพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน ยื่นหนังสือต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายแทนคุณ จิตต์อิสระ เลขานุการคณะทำงานทางการเมืองของประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้รับหนังสือ พร้อมทั้งยื่นหนังสือต่อนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา โดยมีนายสมชาย แสวงการ ส.ว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค เป็นผู้รับหนังสือ เพื่อขอให้ตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) ตรวจสอบการขอพระราชทานอภัยโทษลดโทษผู้ต้องโทษคดีทุจริตคอร์รัปชัน
นพ.ตุลย์ กล่าวว่า ตามที่มีพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษลดโทษ รวม 4 ครั้ง กรณีนักโทษจำคุกในคดีโครงการรับจำนำข้าวมีหลายคนหลุดพ้นโทษไปแล้ว เนื่องจากมีการพิจารณาว่าเป็นนักโทษชั้นเยี่ยมจึงได้รับการลดโทษ ส่งผลให้ประชาชนที่รับความเป็นธรรมยอมรับไม่ได้และคัดค้านอย่างรุนแรง เพราะมองว่าเรื่องการทุจริตเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในประเทศ ซึ่งการลดโทษอย่างนี้ไม่มีใครรับได้แต่การลดโทษเช่นนี้เหมือนเป็นการเอื้อการทุจริตเพื่อให้คนทำผิดได้ลดโทษโดยเร็ว จึงมายื่นต่อสภาฯและวุฒิฯตรวจสอบขั้นตอนการลดโทษในการเอื้อประโยชน์ต่อคนทุริตให้พ้นโทษโดยเร็ว เพื่อนำผลจากการตรวจสอบที่ได้ไปดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
นายแทนคุณ กล่าวว่า จะนำเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการ โดยตั้ง กมธ.วิสามัญตรวจสอบข้อเท็จจริงทุกขั้นตอนในการดำเนินการขอพระราชทานอภัยโทษลดโทษผู้ต้องโทษจำคุกในคดีทุจริตคอร์รัปชันร้ายแรง ซึ่งจะนำไปดูว่าจะมีกระบวนการใดบ้างที่จะบรรเทาความไม่สบายใจขอประชาชนได้
นายสมชาย กล่าวว่า ตนจะนำเรื่องนี้เข้าหารือในชั้น กมธ.ว่า กระบวนการในการเลื่อนชั้นนักโทษเป็นไปในลักษณะใดและเป็นอภิสิทธิ์ชนหรือไม่ เหตุใดคนไม่กี่คนใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนลดโทษเหลือเพียงไม่กี่ปี รวมถึงเห็นด้วยในการเสนอการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 ในมาตรา 8 ในเรื่องคณะกรรมการราชทัณฑ์เดิมที่มาจากการแต่งตั้งเพียง 7 คน จากรมว.ยุติธรรม ซึ่งควรมีภาคส่วนต่างๆ เข้ามามีบทบาทมากกว่านี้ ส่วนมาตรา 52 ควรเพิ่มวรรคท้ายเข้าไปว่า คดีทุจริตโกงชาติ และอาชญากรรมร้ายแรงเป็นภัยต่อสังคม ต้องได้รับโทษ 1 ใน 3 ก่อน จึงจะเข้าสู่กระบวนการขอรับพระราชทานอภัยโทษ และทั้งหมดต้องรับโทษไม่เกินกึ่งหนึ่งของคำตัดสินที่ศาลได้พิพากษาไปแล้ว