ปัญหาซ้ำซาก ผู้ค้าแจง กมธ.สาเหตุลอตเตอรี่แพง แฉแพลตฟอร์มออนไลน์ขาย 80 บวกค่าบริการอีก 20 จี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไข
เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ที่รัฐสภาในการประชุมคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร มีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ประธานกรรมาธิการฯ เป็นประธานการประชุม มีการพิจารณาศึกษาเรื่องร้องเรียนกรณีสลากกินแบ่งรัฐบาลแพงเกินราคาที่รัฐกำหนด โดยได้เชิญนายจีระศักดิ์ น้อยก่ำ ประธานชมรมเครือข่ายผู้ค้าลอตเตอรี่รายย่อย จ.เลย นายพัชรณัฏฐ เจียระพงษ์ ผู้ซื้อและผู้ขายสลากออนไลน์ ในฐานะผู้ร้องเรียน และ พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นายทวีป วุฒิบาทุกาจิตต์ รอง ผอ.สำนักงานสลากฯ เข้าชี้แจง
นายจีระศักดิ์ กล่าวว่า การที่ลอตเตอรี่ใน จ.เลย ไม่เพียงพอต่อผู้ที่ต้องการขาย จนเกิดปัญหาขายเกินราคา โดยทางสำนักงานกองสลากฯส่งให้ผู้ค้าที่อยู่ในระบบโควตาใบละ 70.40 บาท แต่ราคาลอตเตอรี่ที่ขายให้ผู้ค้ารายย่อย 94-95 บาทต่อใบ เมื่อถูกเปลี่ยนมือจากผู้ที่มีโควตาจึงทำให้ลอตเตอรี่แพง มีตัวแปรคือแพลตฟอร์มลอตเตอรี่ออนไลน์ บางแพลตฟอร์มกำหนดขาย 80 บาท แต่บวกค่าบริการ 20 บาท อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ ขอเสนอแนวทางแก้ไข 1.ให้ผู้ค้าลอตเตอรี่รายย่อยมีใบอนุญาตโดยตรง 2.ให้หน่วยงานตัดโควตาบุคคลใดที่นำลอตเตอรี่ไปขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ 3.ออกกฎหมายควบคุมการรวมเล่ม 4.มีระบบลงทะเบียนปลายทางเพื่อป้องกันลอตเตอรีเปลี่ยนมือ
นายพัชรณัฏฐ กล่าวว่า การขายสลากกินแบ่งรัฐบาลบนแพลตฟอร์มออนไลน์มี 2 ระบบ คือ 1.กว้านซื้อลอตเตอรี่ในราคาท้องตลาด นำมาสแกนในระบบและจำหน่ายราคา 100 บาท ที่ขายได้ 1 ล้านใบต่องวด หลังจากมีคนถูกรางวัลก็จะโอนเงินให้ ซึ่งจะได้เปอร์เซ็นต์จากลูกค้าที่ถูกรางวัลอีก 2 เปอร์เซ็นต์ 2.นำสลากไปสแกนผ่านแพลตฟอร์ม คิดค่าสแกนใบละ 5 บาท แต่ต้องมีสลาก 1 หมื่นใบขึ้นไป ขายได้ประมาณ 3 ล้านใบต่องวด ซึ่งเราเดือดร้อนเพราะต้นทุนลอตเตอรี่ราคาสูง คิดว่าสาเหตุเริ่มต้นจากการมีแพลตฟอร์มออนไลน์และไปกว้านซื้อลอตเตอรี่ในราคาสูงนำมาขาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงหนึ่งของการประชุมนายสิระได้ตั้งคำถามตัวแทนจากกองสลากฯ ว่า สาเหตุใดจึงไม่มีการดำเนินคดีกับแพลตฟอร์มออนไลน์ ทั้งที่พบว่ามีความผิดทั้งการได้มาและขายเกินราคา มีการรับสินบนหรือไม่ ปล่อยปละละเลยหรือไม่ เพราะปัจจุบันกองสลากดำเนินคดีกับประชาชนทั่วไป แต่กลับไม่ทำอะไรเลยกลับแพลตฟอร์มทั้งที่เป็นคู่ค้าขนาดใหญ่ เหตุใด ไม่แก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งที่บอร์ดก็เปลี่ยนมาหลายชุดแล้ว ในต่างประเทศ ไม่ได้มีการกำหนดจำนวนของลอตเตอรี่แต่ละงวด แต่ประเทศไทยจำกัดที่งวดละ 100 ล้านฉบับ ขอตั้งคำถามว่า ประเทศไทยสามารถที่จะพิมพ์ฉลากกินแบ่งรัฐบาลมากกว่านี้ได้หรือไม่
พ.ท.หนุน ชี้แจงว่า การเพิ่มจำนวนสลากต้องคำนึงถึงดีมานด์ซัพพลาย จะไปเน้นที่ผู้ขายอย่างเดียวไม่ได้ จะมองเพียงว่า มีคนต้องการขายมาก แล้วพิมพ์มากไม่ได้ เพราะจำนวนผู้บริโภคมีเท่าเดิม สาเหตุที่สลากเกินราคา เกิดจากผู้ค้ารายย่อย ไม่นำสลากไปขายตามราคา ทั้งที่ได้สลากในราคาต้นทุน 70.40 บาทต่อใบ และกลุ่มรายย่อยที่บอกมีจำนวนมากถึง 1-5 แสนราย เป็นกลุ่มที่ได้รับโควตาสลากกินแบ่งจากรัฐบาลถึง 85 เปอร์เซ็นต์ แพลตฟอร์มออนไลน์ เราทราบดี มีการขายเกินราคา แต่เขาเลี่ยงบาลี บอกว่าราคาลอตเตอรี่ 80 บาท อีก 20 บาทเป็นค่าดำเนินการหรือค่าบริการ ทำให้กองสลาก ไม่มีอำนาจในการดำเนินการให้ยกเลิกขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ได้ ทำได้เพียงยกเลิกโควตาของผู้ค้ารายย่อยที่เอาสลากไปให้แพลตฟอร์มออนไลน์ขาย แต่ไม่มีอำนาจไปจับกุมหรือให้เลิกกิจการ”พันโทหนุนกล่าว
นายสิระ ตั้งคำถามกลับไปอีกว่า ที่ไม่มีการดำเนินคดีกับแพลตฟอร์มออนไลน์ เพราะมีการรับสินบนหรือไม่ ปล่อยปละละเลยหรือไม่ ปัจจุบันกองสลากดำเนินคดีกับประชาชนทั่วไป แต่กลับไม่ทำอะไรเลยกลับแพลตฟอร์มออนไลน์ ทั้งที่เป็นผู้ค้าขนาดใหญ่
พ.ท.หนุน กล่าวอีกว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่กฎหมายของสำนักงานกองสลากฯ มีอยู่ข้อเดียว คือ เรื่องขายเกินราคา และเป็นความผิดลหุโทษ ปรับไม่เกิน 10,000 บาท ทำให้เวลาเราแจ้งความแพลตฟอร์มออนไลน์ โดนแค่โทษปรับ แต่ไม่ได้ทำให้ต้องเลิกกิจการไป ที่ผ่านมาจึงใช้วิธี ยกเลิกโควตาของผู้ค้ารายย่อยที่เอาสลากไปขายให้แพลตฟอร์ม ปีที่ผ่านมาดำเนินการไปแล้วกว่า 10,000 ราย
ก่อนปิดการประชุม นายสิระ กล่าวอีกว่า ผมขอควักเงิน 30,000 บาท เพื่อให้เจ้าหน้าที่ไปล่อซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลในแพลตฟอร์มออนไลน์ จะได้ทราบว่ามีการขายเกินราคาจริงหรือไม่ หากพบว่ามีการขายเกินราคาจริง ผูกองสลาก จะเป็นผู้ลงไปดำเนินคดีด้วยตนเอง จำนวนเงิน 30,000 บาทหากซื้อในราคา 100 บาท ได้ลอตเตอรี่ 300 ใบ เท่ากับมีความผิดถึง 300 กรรม น่าจะเพียงพอที่จะเอาผิดผู้ค้าออนไลน์ได้