คุณยายวัย 71 ปีชาว อ.สามชุก ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 แต่ทำลอตเตอรี่หล่นหาย มีคนเก็บได้นำไปลงบันทึกประจำวัน คาดเป็นของคุณยาย จึงแจ้งความดำเนินคดีกันวุ่น
เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 13 ธ.ค.ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มึคุณยายวัย 71 ปี ชาว อ.สามชุก ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 จึงเดินทางไปตรวจสอบ กับ พ.ต.ต.สมบุญ สียางนอก สารวัตรสอบสวน สภ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ทราบว่าวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา มี น.ส.พรทิพย์ ปาลวงษ์ อายุ 35 ปีอยู่บ้านเลขที่ 66/9 หมู่ 6 ต.ย่านยาว อ.สามชุก มาแจ้งความลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานว่าถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เลข 451005 จำนวน 1 ใบจะได้รับเงินรางวัล 6,000,000 บาท แต่หลังจากนั้นได้มีนางประดับ จันทร์อ่วม อายุ 71 ปีอยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่ 7 ต.ย่านยาว ได้เข้ามาแจ้งความว่าถูกรางวัลที่ 1 ด้วยเลขรางวัล 451005 จำนวน 1 ใบแต่ได้ทำลอตเตอรี่หล่นหาย
จากการสอบถามนางประยูร แพร่งกระโทก อายุ 49 ปีบุตรสาวนางประดับ เล่าว่าเมื่อวันที่ 28 พ.ย.มารดาได้ไปซื้อลอตเตอรี่ที่ตลาดชลมาร์ค หมู่ 2 ต.สามชุก โดยมีเพื่อนบ้านไปด้วย โดยซื้อเลข 451005 จำนวน 1 ใบเนื่องจากเป็นเลขที่หลานวัย 4 ขวบให้เลขท้าย ขณะเดียวกันเพื่อนบ้านที่มาด้วยอยากได้เลขเดียวกับของนางประดับ แต่นางประดับ บอกว่าขอละกันเป็นเลขที่หลานให้มา เพื่อนบ้านที่มาด้วยกันจึงยอม ก่อนพากันกลับโดยนางประดับ ได้เก็บลอตเตอรี่ ไว้ในกระเป๋าเสื้อชั้นในคนแก่แล้วรูดซิปปิดไว้ กระทั่งวันที่ 29 พ.ย.นางประดับได้ไปช่วยงานศพที่วัดบางขวาก ขณะกำลังอยู่ในงาน ได้นำลอตเตอรี่ ดังกล่าวออกมาโชว์ ให้กลุ่มคนที่มาช่วยงาน ดูก่อนจะเก็บไว้ในเสื้อชั้นในตามเดิม หลังจากนั้นไม่นาน นางประดับ ก็ล้วงกระเป๋าเสื้อชั้นในเพื่อนำลอตเตอรี่ ออกมาโชว์ อีก แต่ปรากฏว่าลอตเตอรี่ ได้หายไป จึงพยายามเดินหาไปบ่นไป ญาติซึ่งมาจาก จ.ชลบุรี เห็นเข้าจึงแบ่งลอตเตอรี่ ให้ 1 ใบนางประดับ จึงเงียบ
นางประยูร เล่าอีกว่าถึงวันหวยออกเพื่อนบ้านที่ไปซื้อลอตเตอรี่ ด้วยกัน มาแสดงความยินดีโดยบอกว่าแม่ ถูกรางวัลที่ 1 แต่แม่บอกว่าล็อตเตอรี่หาย ต่อมาทราบว่ามีเพื่อนบ้านถูกรางวัลที่ 1 ด้วยจึงไปแสดงความยินดีด้วย แต่พอนึกขึ้นได้ว่าวันที่ทำลอตเตอรี่หาย ผู้ต้องสงสัยคนที่ถูกรางวัลที่ 1 อยู่ในกลุ่มที่แม่โชว์ลอตเตอรี่ให้ดูด้วย จึงสงสัยว่าลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัล น่าจะเป็นใบเดียวกับที่หล่นหาย จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ
นางประยูร เล่าอีกว่าหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เชิญตัวนางพรทิพย์ ผู้ที่เข้าแจ้งตำรวจว่าถูกรางวัลที่ 1 มาสอบสวน ต่อหน้านางประดับ โดยนางพรทิพย์ ให้การกับตำรวจว่าซื้อลอตเตอรี่ มาหลายใบ ทั้งจากกรุงเทพ และสามชุก ส่วนใบที่ถูกรางวัลที่ 1 นั้นจำไม่ได้ว่าซื้อมาจากที่ไหน หลังสอบปากคำเสร็จเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ นางประดับ พร้อมญาติกลับบ้าน เหลือเพียง น.ส.พรทิพย์
นางประยูร เปิดเผยต่ออีกว่าจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เรียกทั้งสองฝ่ายมาตกลงกัน แต่ น.ส.พรทิพย์ ได้บ่ายเบี่ยง โดยให้พ่อมาแทน ทำให้ไม่สามารถตกลงกันได้โดยเจ้าหน้าที่ ได้แจ้งกับมารดาว่าได้คืนล็อตเตอรี่แล้ว ทำให้มารดาดีใจ คิดว่าได้ลอตเตอรี่คืน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับคืนลอตเตอรี่ให้ น.ส.พรทิพย์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่าลอตเตอรี่ดังกล่าวเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าจำนวนมาก ไม่สามารถเก็บไว้ได้ โดยแนะนำมารดา ว่าให้ไปแจ้งอายัดกับกองสลากได้ มารดาพร้อมครอบครัวจึงเดินทางไปที่กองสลาก เพื่อขออายัดลอตเตอรี่ ที่ถูกรางวัลที่ 1 แต่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กองสลากว่าไม่สามารถอายัดได้เนื่องจากเป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงเดินทางกลับ
หลังกลับจากกองสลาก ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.สามชุก และได้รับแจ้งว่าทางเจ้าหน้าที่ได้ทำเรื่องอายัดแล้วแต่ไม่ทัน เนื่องจากเรื่องที่แจ้งอายัดถูกตีกลับ และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกตัว น.ส.พรทิพย์ มาไกล่เกลี่ย แต่ น.ส.พรทิพย์ อ้างว่าไม่สบายโดยมอบหมายให้พ่อมาแทน และมีการเจรจา ขอลอตเตอรี่คืน พร้อมจะแบ่งเงินให้ 10 เปอร์เซ็นต์ แต่พ่อ ของ น.ส.พรทิพย์ ไม่ยอม นางประดับ จึงเพิ่มให้เป็น 1 ล้านบาทแต่ฝ่ายพ่อ น.ส.พรทิพย์ กลับขอเพิ่มเป็นเงิน 3,000,000บาท นางประดับ พร้อมญาติ ไม่สามารถยอมได้เนื่องจากมั่นใจว่าล็อตเตอรี่ ที่ถูกรางวัลเป็นของตนที่ทำหายเนื่องจากได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่วัดพบว่ามีภาพ น.ส.พรทิพย์ อยู่ในบริเวณที่มารดา นำลอตเตอรี่ ออกมาโชว์ และมีพยานที่เห็นมารดานำลอตเตอรี่ออกมาและตามหา จึงนำหลักฐานเข้าร้องทุกข์กับตำรวจกองปราบให้ช่วยเร่งดำเนินการ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ ได้เชิญตัวนางประดับ ไปสอบปากคำที่กองปราบ
ทางด้านนายสกล เศรษฐไพบูลย์ อายุ 64 ปีพ่อค้าขายลอตเตอรี่ ที่ขายลอตเตอรี่ให้นางประดับ เปิดเผยยืนยันว่าเมื่อวันที่ 28 พ.ย.ได้ขายลอตเตอรี่ให้กับนางประดับ ที่มากับเพื่อนบ้านซึ่งรู้จักกับตนเป็นอย่างดี 1 ใบกระทั่งมาทราบว่านางประดับ ทำลอตเตอรี่หายและมีคนถูกรางวัลที่ 1 มีการแจ้งความกัน และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ตนนำต้นขั้วลอตเตอรี่ ไปตรวจสอบพบรางวัลที่ 1 ที่มีปัญหาเป็นลอตเตอรี่ที่ซื้อจากตนไปจริงนอกจากนี้ลอตเตอรี่ฉบับที่ตนขายอยู่นี้ยังมีผู้โชคดีถูกรางวัลข้างเคียง 451006 ด้วย1 ใบคือนายประสิทธิ์ สิงห์บุตร สท.สามชุก และเป็นพ่อค้าขายปลาเผาอยู่ในตลาดสามชุก
