"อดีต ผกก.โจ้" ปฏิเสธร่วมฆ่าผู้ต้องหา อ้างคลุมถุงดำต้องการรีดข้อมูลยาเสพติด ไม่ต้องการให้ถึงตาย ทำไปเพื่อประโยชน์แก่ประเทศชาติ
เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีเจ้าหน้าที่คุมตัว พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือผกก.โจ้ อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ อายุ 39 ปี พร้อมพวกรวม 7 คนไปยังศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถนนนครไชยศรี เพื่อสอบคำให้การจำเลยหลังถูกพนักงานอัยการฟ้องเป็นจำเลยในความผิดฐาน 1.ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 2.เป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจโดยมิชอบ 3.ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมาน และ 4.ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น กรณีจำเลยทั้งหมดร่วมกันจับกุมตัว นายจิระพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) หรือ “มาวิน” ผู้ต้องหาคดียาเสพติดเสียชีวิตไปรีดข้อมูล โดยใช้ถุงดำคลุมหัวจนทำให้ขาดอากาศหายใจเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4-6 ส.ค.64 ล่าสุดศาลได้เบิกตัวจำเลยทั้งหมดจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อสอบคำให้การตามกระบวนการในชั้นศาล ขณะเดียวกัน ร.ต.จักรกฤณ์ กลั่นดี บิดาของผู้ตาย ได้ยื่นขอเป็นโจทก์ร่วม โดยศาลถามอัยการโจทก์ และทนายจำเลย ไม่คัดค้าน อนุญาตให้เป็นโจทก์ร่วมได้ โดยศาลอ่านคำฟ้องและข้อหาให้จำเลยทราบแล้ว มีการสอบคำให้การจำเลยโดยเริ่มจาก
พ.ต.อ.ธิติสรรค์ หรือ ผกก.โจ้ จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพในข้อหาที่ 1, 2 และ 4 ยกเว้นข้อหาที่ 3 โดยระบุว่า มีการทำร้ายร่างกายต้องการขยายผลทางคดียาเสพติดที่เป็นภัยร้ายของสังคม ไม่ได้ต้องการให้นายจิระพงษ์ ถึงแก่ความตาย ที่ทำไปเพื่อประโยชน์แก่ประเทศชาติ
จำเลยที่ 2 ให้การยอมรับสารภาพทุกข้อหา ยกเว้นข้อหาที่ 3 เช่นเดียวกัน ให้เหตุผลว่า ไม่ได้เจตนาจะให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย เพียงอยู่ร่วมในเหตุการณ์ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา
จำเลยที่ 3 ให้การปฏิเสธข้อหาที่ 3 และ 4 และให้เหตุผลว่า ได้เข้ามาที่เกิดเหตุภายหลัง และไม่ได้ร่วมทำร้ายผู้ตาย
จำเลยที่ 4 ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ยกเว้นข้อหาที่ 4 ที่ให้การรับสารภาพ โดยเหตุผลในการปฏิเสธระบุว่า ทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา ร่วมทำร้ายจริง แต่ไม่เจตนาให้ถึงแก่ชีวิต
จำเลยที่ 5 ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ให้เหตุผลว่าอยู่ในเหตุการณ์ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา แต่ไม่ได้ร่วมทำร้าย
จำเลยที่ 6 ระบุว่า เข้าไปในที่เกิดเหตุ แล้วเดินออกมา โดยเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นไปแล้ว
จำเลยที่ 7 สปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ให้เหตุผลว่าอยู่ในเหตุการณ์ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา แต่ไม่ได้ร่วมทำร้าย