ครม. เห็นชอบร่าง พ.ร.ฎ.เปลี่ยนแปลงกรอบวงเงินกู้ 3 หมื่นล้านรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันในประเทศ เตรียมกู้ก่อน 2 หมื่นล้าน ถ้าร่าง พ.ร.ฎ. มีผลบังคับใช้แล้วจะกู้เพิ่มเติมอีก 1 หมื่นล้าน
เมื่อวันที่ 16 พ.ย. น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.สัญจร เห็นชอบการขออนุมัติกู้ยืมเงินของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เพื่อเสริมสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง รักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีพของประชาชน ดังนี้
1.อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.ฎ.เปลี่ยนแปลงกรอบวงเงินกู้เพื่อรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ พ.ศ. …. โดยเปลี่ยนแปลงกรอบวงเงินกู้เพื่อรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ เป็นจำนวนไม่เกิน 30,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันกำหนดไว้ 20,000 ล้านบาท
2.เห็นชอบร่างหลักเกณฑ์การกู้เงินของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เห็นชอบร่างหลักเกณฑ์การกู้เงินของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยกำหนดให้ สกนช. จะต้องเสนอเหตุผลความจำเป็นในการกู้เงิน รายละเอียดการกู้เงิน (แผนการกู้เงิน แผนการใช้จ่ายเงินกู้ และแผนการชำระหนี้) ต่อ คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อให้ความเห็นชอบก่อนนำเสนอ ครม. เพื่ออนุมัติต่อไป ทั้งนี้ การกู้ยืมเงินของ สกนช. ถือเป็นการก่อหนี้สาธารณะ สกนช. จะต้องพิจารณาดำเนินการตามกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง
3.อนุมัติการกู้ยืมเงิน โดยให้เป็นไปตามความเห็นของกระทรวงการคลัง โดยให้ สกนช. ดำเนินการกู้เฉพาะวงเงิน 20,000 ล้านบาท ตามกรอบของกฎหมายกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีอยู่ และจะดำเนินการกู้เงินเพิ่มเติมวงเงิน 10,000 ล้านบาท ได้ต่อเมื่อ ร่าง พ.ร.ฎ. มีผลบังคับใช้แล้ว
น.ส.รัชดา กล่าวต่อว่า แผนการกู้ยืมเงินและแผนการชำระหนี้ของ สกนช. จะเป็นการกำหนดรายละเอียดของการกู้ยืมเงินและระยะเวลาหรือช่วงเวลาในการดำเนินการต่าง ๆ คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้มีมติเห็นชอบให้เปลี่ยนแปลงกรอบวงเงินกู้ หลักเกณฑ์การกู้ยืมเงินของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และแผนการกู้ยืมเงินและแผนการชำระหนี้ดังกล่าวแล้ว เมื่อวันที่ 1 พ.ย.2564 โดยแผนการเบิกจ่ายเงินกู้ที่ สกนช.ประมาณการไว้จะเริ่มเบิกเงินกู้ประมาณเดือน มิ.ย.2565