"ราชทัณฑ์" แยกผู้ต้องขังคดีสะเทือนขวัญบำบัดเฉพาะ

2021-11-16 10:25:29

"ราชทัณฑ์" แยกผู้ต้องขังคดีสะเทือนขวัญบำบัดเฉพาะ

Advertisement


"ราชทัณฑ์" แยกผู้ต้องขังคดีสะเทือนขวัญเป็นภัยต่อสังคม  196 ราย บำบัดด้วยนิติจิตเวชศาสตร์เฉพาะ

เมื่อวันที่ 16 พ.ย. นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงการดำเนินการพิจารณากลั่นกรองผู้เข้าข่ายเป็นนักโทษเด็ดขาดที่ต้องเฝ้าระวังการก่ออาชญากรรมสะเทือนขวัญ หรือเป็นภัยต่อสังคม (Watch List) ตามนโยบายของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน  รมว.ยุติธรรมที่จะจำแนกผู้ต้องขังที่มีพฤติการณ์กระทำผิดรุนแรง โหดร้ายทารุณ มีลักษณะร้าย มีแนวโน้มหรือความเสี่ยง ที่จะกระทำผิดร้ายแรงซ้ำ ออกจากผู้กระทำผิดโดยพลั้งพลาดหรือไม่ใช่อาชญากรโดยสันดาน เพื่อให้สามารถดำเนินการดูแลและควบคุมผู้ต้องขังกลุ่มดังกล่าวได้อย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ ซึ่งปัจจุบัน กรมราชทัณฑ์พบว่ามีผู้ต้องขังกลุ่มดังกล่าว รวมทั้งสิ้น 196 ราย โดยพิจารณาคัดกรองจากหลักเกณฑ์ที่กำหนดตามมาตราในประมวลกฎหมายอาญาและลักษณะความผิด 7 กลุ่ม เช่น ฆ่าเด็ก หรือข่มขืนเด็ก ฆ่าข่มขืน ฆาตกรต่อเนื่อง ฆาตกรโรคจิต เป็นต้น อีกทั้งพิจารณาจากพฤติการณ์แห่งคดี สาเหตุแห่งการกระทำความผิด ประวัติการกระทำความผิด ภาวะแห่งจิต พฤติการณ์ขณะต้องโทษ และแบบประเมินด้านการจำแนกลักษณะผู้ต้องขัง มาประกอบการพิจารณา

นายอายุตม์ กล่าวต่อว่า การดำเนินการแยกผู้ต้องขังดังกล่าวออกจากผู้ต้องขังทั่วไป จะเกิดผลดีหลายประการ นอกจากจะทำให้กรมราชทัณฑ์ สามารถควบคุมและดูแลผู้ต้องขังกลุ่มดังกล่าวได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมตามกระบวนการต่างๆ ตั้งแต่การแยกคุมขังยังเรือนจำความมั่นคงสูงสุด ที่มีแดนความมั่นคงสูงสุด หรือ Supermax ไปจนกระทั่งการแก้ไข บำบัด ฟื้นฟู และพัฒนาพฤตินิสัยด้วยโปรแกรมเฉพาะทาง พร้อมประสานความร่วมมือกับสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ หรือนักจิตวิทยาเพื่อตรวจวินิจฉัย บำบัดรักษา และฟื้นฟูสุขภาพจิตตามแนวทางเฉพาะด้านนิติจิตเวชศาสตร์ นอกจากนั้น ยังเกิดประโยชน์ต่อสังคมส่วนใหญ่ โดยเฉพาะการสร้างความปลอดภัยและเชื่อมั่นต่อประชาชนว่ากลุ่มคนดังกล่าว จะได้รับการควบคุม แก้ไข บำบัดฟื้นฟู อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ พร้อมปรับเปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรมในการกลับตนเป็นคนดี มีคุณค่าต่อสังคม และไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก