"ศิธา"ซัดรัฐบาลทำงานแบบ "ทราบแล้วเปลี่ยน"

2021-11-15 17:03:11

"ศิธา"ซัดรัฐบาลทำงานแบบ "ทราบแล้วเปลี่ยน"

Advertisement

"ศิธา"ซัดรัฐบาลทำงานแบบ "ทราบแล้วเปลี่ยน" เมื่อบอกหรือแจ้งสิ่งใดมา ท้ายที่สุดก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

เมื่อวันที่ 15 พ.ย. น.อ.ศิธา ทิวารี คณะกรรมการอำนวยการและพัฒนาพรรคไทยสร้างไทย เห็นว่านับแต่การเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. เป็นต้นมา ยังไม่สามารถสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ผู้ประกอบการ รวมถึงนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในประเทศ รัฐบาลไม่สามารถสร้างความมั่นใจได้เลย การเตรียมการโดยภาครัฐยังไม่ชัดเจน ไม่แน่นอน ทำให้ผู้ประกอบการไม่กล้าตัดสินใจที่จะเดินหน้าประกอบธุรกิจอย่างเต็มที่ และจากการทำงานของพรรคไทยสร้างไทย ที่เดินสายพบปะ ผู้ประกอบการ พี่น้องประชาชนได้รับฟังเสียงสะท้อน ยังพบปัญหาที่ทำให้เกิดความไม่มั่นใจ เช่น การให้ความสำคัญกับวัคซีนหลักเพียงชนิดเดียว และมีประเทศที่ยอมรับน้อยมาก โดยรัฐปล่อยให้เวลาผ่านไปเนิ่นนานจึงตัดสินใจเปิดรับวัคซีนซึ่งเป็นที่ยอมรับในภายหลัง

ส่วนกรณีที่ ศบค.เลื่อนเวลาการเปิดกิจการให้ผับ บาร์ สามารถกลับมาดำเนินการได้เป็นวันที่ 16 ม.ค.65 เป็นต้นไปนั้น น.อ.ศิธา เห็นว่าจะส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วนโดยเฉพาะภาคเอกชนที่ไม่เชื่อมั่นในรัฐบาล จึงตัดสินใจไม่ลงทุนและไม่ดำเนินกิจการอย่างเต็มที่ ซึ่งจะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาประชาชนมีการตั้งคำถามมากมาย ว่าการทำงานของรัฐบาลเป็นลักษณะ "ทราบแล้วเปลี่ยน" ซึ่งเมื่อรัฐบาลบอกหรือแจ้งสิ่งใดมา ท้ายที่สุดก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา หรือแม้แต่ในช่วงที่มีการแจ้งข่าวสารสำคัญในวันและเวลาเดียวกัน รัฐบาลกับหน่วยงานที่รับผิดชอบอื่น ก็ยังให้ความเห็นหรือข้อมูลที่แตกต่างกัน ดังนั้นสิ่งเหล่านี้รัฐจะต้องเร่งแก้ไขหรือเลิกทำ เช่นเดียวกับการเข้าถึงการตรวจโควิด จะต้องเข้าถึงได้ง่าย เพราะมาตรการดังกล่าวจะเป็นกลไกสำคัญนำไปสู่การจำกัดการขยายวงการระบาดให้ลดลง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศ ขณะเดียวกันยังเห็นว่าขั้นตอนการเข้าประเทศ รัฐบาลจำเป็นต้องชั่งน้ำหนักระหว่างความเชื่อมั่นและความยุ่งยากให้เกิดสมดุล โดยเห็นว่าในช่วงสถานการณ์ โควิด ควรผ่อนผันให้วีซ่าให้เกิดความยืดหยุ่นมากขึ้น จากเดิมที่มีกรอบเวลา 30 วันอาจพิจารณาเพิ่มเติมให้อีก 60 วันได้หรือไม่ เพราะจะเป็นการสร้างรายได้ผ่านการจับจ่ายใช้สอย ของนักท่องเที่ยว ขณะเดียวกันยังพบว่า มีอีกหลายกฎหมายที่บังคับใช้อย่างเข้มงวดจนเป็นอุปสรรคต่อการค้าขาย ทั้งยังเป็นช่องทางให้เกิดการเรียกรับผลประโยชน์สินบนใต้โต๊ะต่างๆ ซึ่งทั้งหมดเป็นเสียงสะท้อนของผู้ประกอบการ เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องแก้ไขโดยเร่งด่วน