นศ.สาวร้องกองปราบกู้เงินดอกเบี้ยโหดโดนทวงหนี้ 2 ล้าน

2021-11-04 01:00:41

นศ.สาวร้องกองปราบกู้เงินดอกเบี้ยโหดโดนทวงหนี้ 2 ล้าน

Advertisement


นศ.สาววัย 19 ปี ร้องกองปราบช่วยหลังกู้เงินนอกระบบดอกเบี้ยโหดเป็นหนี้ทบต้นทบดอกเกือบ 2 ล้าน โดนเจ้าหนี้นับสิบข่มขู่ หวังประนอมหนี้กลับไปเรียนหนังสืออย่างปลอดภัย



เมื่อวันที่ 3 พ.ย.  ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร พา น.ส.ก้อย  นักศึกษาสาวอายุ  19 ปี พร้อมพ่อแม่เข้าร้องขอความช่วยเหลือกรณีถูกทวงหนี้เงินกู้นอกระบบวจอัตราสูงกว่ากฎหมายกำหนด ร้อยละ 20-40 กู้รายวัน เริ่มต้นจากเป็นหนี้ เจ้าหนี้รายแรก 5,000 บาท กำหนดชำระคืน 5 วัน ได้เงินมายังไม่ทันเอาไปลงทุนตามที่ตั้งใจไว้ว่าจะซื้อเนื้อหมูจำหน่ายช่วยเหลือครอบครัวในช่วงโควิด-19 ระบาด โรงเรียนปิดครบกำหนด 5 วันต้องคืนเงินพร้อมดอกเบี้ย เจ้าหนี้แนะนำให้กู้เจ้าหนี้รายต่อไป จนหนี้ทบต้นทบดอกเป็นเงินเป็นเงินหลักล้านบาทในระยะเวลาเพียง 5 เดือน ถูกเจ้าหนี้นับสิบรายทวงหนี้ ข่มขู่ ก่อนจะขอความช่วยเหลือนายสนธิญา พาเข้าร้องขอความเป็นธรรม โดยยินดีประนอมหนี้ชดใช้ให้เจ้าหนี้ทุกรายแต่ขอโอกาสกลับไปเรียนหนังสืออย่างปลอดภัย

นายสนธิญา กล่าวว่า น้องก้อยได้ไปกู้เงินจากเจ้าหนี้รายหนึ่งที่พบกันในเฟซบุ๊กเป็นเงินจำนวน 5,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 โดยจะต้องนำเงินมาคืนภายใน 3 วัน โดยหวังว่าจะนำเงินจำนวนดังกล่าวไปลงทุนขายหมูเพื่อหารายได้พิเศษ แต่ในช่วงเวลาดังกล่าวกลับไม่ได้นำเงินไปลงทุนตามที่คาดหวังไว้ เพราะคิดว่าไม่สามารถหาเงินมาคืนได้ตามที่ทำสัญญากับเจ้าหนี้ไว้ และเก็บเงินจำนวนดังกล่าวไว้ ต่อมาก็ถูกเจ้าหนี้รายดังกล่าวทวงเงินทั้งในโลกโซเชียลและตามมาถึงที่บ้าน จึงตัดสินใจไปกู้เงินจากเจ้าหนี้อีก 9 คน  รวมแล้วมียอดหนี้มากกว่า 1.9 ล้านบาท ภายในเวลาเพียงไม่กี่เดือน ซึ่งที่ผ่านมาน้องก้อยได้พยายามหาเงินมาคืนให้กับเจ้าหนี้แต่ละคนโดยมีหลักฐานเป็นหลักฐานการโอนเงิน ต่อมาถูกเจ้าหนี้แต่ละคนซึ่งมีทั้งลูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ  อาจารย์ของโรงเรียนและคนรู้จักอีกหลายคน มาติดตามทวงหนี้ทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน บางรายข่มขู่ว่าจะเอาชีวิตหากพบหน้าหรือเดินทางไปเรียนหนังสือ จึงตัดสินใจแจ้งแก่มารดาว่ามียอดหนี้จำนวนดังกล่าวอยู่ จึงพยายามโทรไปพูดคุยไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้แต่ละคนแต่เจ้าหนี้ทั้งหมดก็ไม่ยอมรับการชำระหนี้แบบรายงวดเพราะไม่เชื่อว่าทางครอบครัวจะใช้เงินได้ทั้งหมด ต้องการให้จ่ายหนี้เป็นก้อนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย

น.ส.ก้อย กล่าวว่า มีความบริสุทธิ์ใจในการกู้เงินดังกล่าวเพื่อนำไปลงทุนขายหมูเพื่อหารายได้เสริมให้กับครอบครัวในช่วงที่โรงเรียนปิด และตั้งใจจะคืนเงินทั้งหมดให้กับเจ้าหนี้ แต่สาเหตุที่ทำให้เกิดการกู้เงินแบบทบต้นทบดอกเป็นวงกลมต้นมีนี่เกือบ 2 ล้านบาทนั้น เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และไม่อยากให้ครอบครัวรู้ จึงตัดสินใจกู้เงินจากเจ้าหนี้นับสิบราย โดยเงินจำนวนดังกล่าวใช้ไปกับการคืนเงินต้นและเงินดอกให้กับเจ้าหนี้ และไม่ได้นำไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือยหรือนำไปเล่นการพนัน

ด้านพนักงานสอบสวน บก.ป. ได้รับเรื่องลงบันทึกประจำวันไว้ และจะแจ้งให้ผู้บังคับบัญชารับทราบเพื่อหาทางช่วยประสานงานกับเจ้าหนี้ทั้ง 10 ราย ในการประนอมหนี้ต่อไป