"รงค์"ยอมรับผลโพลทำ ส.ส.พปชร.เสียกำลังใจแต่ไม่คิดตีจาก มั่นใจชื่อ "บิ๊กตู่" ยังขายได้ในภาคใต้
เมื่อวันที่ 22 ต.ค.นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ในฐานะคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร พปชร. ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีข่าวแกนนำบางกลุ่มใน พปชร.ทำโพลประเมินความนิยม ส.ส. โดยระบุว่าภาคใต้มีส.ส.เพียง 4 คน จากทั้งหมด 14 คน ว่า ไม่ทราบการทำโพลดังกล่าวประเมินอย่างไรเพราะเป็นส่วนของพรรค หากจะถามว่าโพลเชื่อได้หรือไม่ก็ต้องบอกว่าควรจะเชื่อไว้ แต่ไม่ถึงขนาดต้องจริงจัง ส่วนเรื่องการพิจารณาผู้สมัครนั้น ในวันอังคารที่ 26 ต.ค.นี้ คณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร จะประชุมและพูดคุยกันในเรื่องนี้ด้วย ส่วนสังเกตว่าพปชร.ไม่บอกจุดอ่อนและการปิดจุดอ่อนของส.สที่ไม่ผ่านเกณฑ์นั้น เชื่อว่าพรรคมีกลยุทธ์ที่จะบอกอยู่แล้ว โดยการทำโพลเป็นข้อมูลดิบที่จะชี้บางอย่างและถือเป็นเครื่องมือทางการบริหาร เปรียบเหมือนหมอ ที่มีคนไข้มาหาต้องมาพิจารณาว่าจะจ่ายยาชนิดใดให้เพื่อรักษาอาการ ซึ่งฝ่ายที่เป็นผู้ทำโพล คงจะมีคำอธิบายได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าผลโพลที่ออกมาจะทำให้คนที่ไม่ผ่านเกณฑ์เสียกำลังใจหรือไม่ นายรงค์ กล่าวว่า แน่นอน คงเสียกำลังใจ แต่ถ้าคิดจะปรับปรุงตัวเองก็อยากให้ปรับปรุง การทำโพลเป็นเรื่องปกติ และไม่คิดว่าคนที่ไม่ผ่านเกณฑ์จะท้อและตีจากพรรรค เพราะการทำโพลทุกครั้งต้องมีวัตถุประสงค์ แต่ไม่รู้ว่าทางผู้บริหารพรรคจะใช้กรณีนี้มาพิจารณาว่าจะส่งหรือไม่ส่งลงสมัครหรือไม่ และไม่เชื่อว่ากรรมการบริหารพรรคจะใช้การทำโพลครั้งเดียวมาตัดสินใจ
ส่วนกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดไทม์ไลน์แก้กฎหมายลูก 2 ฉบับ จะจบขั้นตอนในเดือน ก.ค.65 และอาจมีแรงกดดันให้นายกรัฐมนตรียุบสภานั้น นายรงค์ กล่าวว่า การเมืองเป็นเรื่องไม่แน่นอน นายกฯบอกเองว่าไม่ยุบสภา เราต้องเชื่อเพราะอำนาจอยู่ที่นายกฯ หรืออาจจะยุบ ถ้าเงื่อนไขการเมืองเปลี่ยนไป การเปิดไทม์ไลน์เป็นสถานการปกติที่สามารถวางแผนได้ ซึ่งเราก็ฟังหูไว้หู แต่การตัดสินใจทางการเมืองบางครั้ง บางสถานการณ์ไม่อาจวางแผนได้ ดังนั้นคนทำงานการเมืองต้องตื่นตัว
ผู้สื่อข่าวถามว่าคิดว่าจะมีโอกาสยุบสภากลางปี 65 หลังกฎหมายลูก 2 ฉบับเสร็จ ได้หรือไม่ นายรงค์ กล่าวว่า ถ้าพิจารณาจากปัจจัยต่างๆเช่น งบประมาณถูกดึงไปในโครงการหรือมีผลงานออกมาจนประชาชนชื่นชอบ และโควิดคลี่คลาย ปัญหาต่างๆเบาบางลง เศรษฐกิจดีขึ้นแล้ว ก็สามารถยุบได้ โดยช่วงกลางปีหน้าเป็นการประชุมสภาสมัยสามัญ ก็มีสิทธิยุบสภาได้เพราะจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านเพื่อลงมติอีก และมีการเมืองบนท้องถนน ที่ยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่อาจทำให้เกิดการยุบสภาในช่วงนั้นได้ แต่ต้องดูว่าการชุมนุมบนท้องถนนจะจุดติดหรือไม่
เมื่อถามว่าหากมีการเลือกตั้ง ชื่อของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็นจุดขายในภาคใต้ได้หรือไม่ นายรงค์ กล่าวว่า เชื่อว่ายังขายได้ ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า พล.อ.ประยุทธ์ ให้ความสำคัญกับภาคใต้ และให้ความสำคัญทุกภาค ดูแลประชาชนทุกภาค และให้ความช่วยเหลือประชาชนรวดเร็ว ประชาชนจึงชื่นชอบ