"หมอเรวัต" แซะรัฐบาลอย่าเกาะกระโปรง "ลิซ่า" แนะเปิดประเทศควรเลิกเคอร์ฟิว โละ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
เมื่อวันที่ 14 ต.ค. นพ.เรวัต วิศรุตเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงกรณีที่นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ยืนยันต่อการจัดอีเวนท์ ต้อนรับการเปิดประเทศช่วงปลายปี ด้วยการทุ่มงบ 200 ล้านบาท เพื่อจ้าง “ลิซ่า แบล็กพิงก์” หรือ “ลลิษา มโนบาล” ศิลปินเคป็อปบชาวไทย และ “แอนเดรีย โบเซลลี” นักร้องโอเปร่าชื่อดังของโลกชาวอิตาลี ร่วมงานเคาท์ดาวน์ปีใหม่ จ.ภูเก็ต และกทม. ว่า ตนเข้าใจว่ารัฐบาลต้องการดึงศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง ลิซ่า เพื่อโปรโมทและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ แต่สิ่งที่ช่วยสร้างแรงกระตุ้นให้ชาวต่างชาติ และคนไทยร่วมกิจกรรมดังกล่าว ตนมองว่าคือการสร้างความเชื่อมั่นให้กับมาตรการของประเทศต่อการป้องกันโควิด-19 โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนให้ประชาชนทั่วประเทศครบโดส ในปริมาณ ไม่ใช่คิดแค่ปริมาณขั้นต่ำ ที่ 30% รวมถึงยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยกเลิกเคอร์ฟิว และใช้กฎหมายปกติควบคุมสถานการณ์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเห็นว่าประเทศไทยมีศักยภาพในการควบคุมสถานการณ์ได
“ผมขอเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงความสามารถ อย่าเกาะชายกระโปรงลิซ่าเพื่อช่วยโฆษณา เพราะต่อให้ช่วยโปรโมทอย่างไร แต่การบริหารจัดการไม่ดี อาจไม่ช่วยอะไร ทั้งนี้ผมมองว่าความสำเร็จของการเปิดปรเทศ ขึ้นอยู่กับแผน และการดำเนินงานที่เป็นขั้นตอน รวมถึงมีไทม์ไลน์ที่ชัดเจนที่สำคัญประเทศไทยต้องแสดงความพร้อม ทั้งการฉีดวัคซีนครบโดส มาตรการความปลอดภัย ใส่แมสก์ และรักษาระยะห่าง รวมถึงการให้ความสะดวกของการตรวจหาเชื้อ แบบอาร์ที พีซีอาร์ และตรวจหาเชื้อแบบอาร์ทีเค ดังนั้นหากไม่สามารถสร้างความมั่นใจในมาตรการได้ รัฐบาลควรประหยัดงบค่าจ้างลิซ่าซึ่งเป็นเงินภาษีของประชาชนจะดีกว่า” นพ.เรวัต กล่าว