"หัวหิน-ชะอำ" ขานรับนายกฯ พร้อมเปิดเมืองรับ นทท.ต่างชาติ 1 พ.ย.นี้
เมื่อวันที่ 14 ต.ค. นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับ นายพรหมพิริยะ กิจนุสนธิ์ รองผู้ว่าราชการ จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร รองผู้ว่าราชการ จ.เพชรบุรี นายสุชาติ อุสาหะ ส.ส.เพชรบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชน เพื่อร่วมหารือการเตรียมความพร้อมและแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในพื้นที่นำร่อง จ.ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) และ จ.เพชรบุรี (ชะอำ) ที่โรงแรมเชอราตัน หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา อ.ชะอำ ว่า ทั้งเมืองหัวหิน-ชะอำ อยู่ในพื้นที่นำร่องการท่องเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีการเตรียมความพร้อม มีความเป็นไปได้ที่จะเตรียมเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในวันที่ 1 พ.ย.นี้ เหลือแค่การบริหารจัดการลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ รายวันซึ่งมีความเป็นไปได้ พร้อมเตรียมเสนอเปิดพื้นที่หัวหิน-ชะอำ ซึ่งมีความพร้อมในทุกๆด้านการบริหารจัดการ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของท่านนายกรัฐมนตรี โดยนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวจะต้องเดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ และต้องได้รับวัคซีนที่ครบโดสเดินทางมาถึงประเทศไทย เดินทางมาถึงหัวหิน-ชะอำโดยพาหนะที่จัดเตรียมไว้ โดยที่ไม่หยุดระหว่างทาง หรืออาจตรวจหาเชื้อที่สนามบิน หรืออาจจะตรวจที่หัวหิน-ชะอำก็ได้ พอผลตรวจออกมาไม่พบเชื้อก็สามารถเดินทางไปพื้นที่อื่นได้เลยโดยที่ไม่ต้องกักตัว ซึ่งนักท่องเที่ยวทุกคนที่รอคอยที่จะมาเที่ยวเมืองหัวหิน-ชะอำ ก็จะเป็นโอกาสดี ด้วยความร่วมมือของทุกฝ่าย ที่พยายามผลักดันเรื่องนี้อย่างเต็มที่การกลับมาของนักท่องเที่ยว ซึ่งเมืองหัวหิน-ชะอำ นอกจากจะมีทะเลที่สวยงามแล้วยังมีอาหารที่รสชาติอร่อย ผู้คนที่จิตใจงดงาม ต้องการให้ทุกคนกลับมาชีวิตดังเดิม
“หัวหิน-ชะอำ จะเป็นพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว 1 พ.ย.นี้ เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เข้ามาเที่ยวหากผลการตรวจหาเชื้อระบุว่าไม่พบเชื้อ จะสามารถเดินทางท่องเที่ยวแบบไม่กักตัวและไม่จำกัดพื้นที่ได้ ซึ่งหัวหิน-ชะอำ มีความพร้อมในทุกๆด้าน ทั้งด้านการควบคุมสถานการณ์โควิด-19 และความพร้อมด้านการจัดการ ในส่วนวัคซีนมีค่าเฉลี่ยความครอบคลุมการฉีดวัคซีนจะเกิน 70 เปอร์เซ็นต์ภายในสิ้นเดือน ต.ค.นี้แน่นอน รวมถึงความพร้อมในความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วน ประชาชน ภาคราชการภาคเอกชน นอกจากนั้นยังเตรียมแผนเผชิญเหตุ หากเกิดกรณีการติดเชื้อมีความพร้อมป้องกันรัดกุมทุกด้าน” นายยุทธศักดิ์ กล่าว
นายอุดร ออลสัน ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่าเห็นด้วยอย่างยิ่งกับท่านนายกรัฐมนตรีที่จะมีเปิดประเทศรับนักท่องโดยเฉพาะพื้นที่หัวหินและชะอำ ที่ผ่านมาทุกหน่วยงานใช้ความพยายามเพื่อสิ่งนี้มาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็นการระดมการฉีดวัคซีนของภาครัฐ/องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น และเอกชนบางหน่วยงานที่ระดมเร่งจัดหาวัคซีนฉีดให้ประชาชนในพื้นที่นำร่อง ด้านผู้ประกอบการได้เตรียมความพร้อมด้าน SHAPLUS เพราะวันนี้เราต้องอยู่กับโควิดให้ได้ ประเทศไทยเหมือนหนึ่งครอบครัวซึ่งสมาชิกในครอบครัวก็ต้องมีหน้าที่รับผิดชอบในแต่ละหน้าที่ที่ได้รับหมอบหมายเพื่อให้ทุกคนในครอบครัวปลอดภัย และให้ทุกคนในครอบครัวมีชีวิตที่ดีมีกินมีใช้ควบคู่กันไป ประเทศไทยเรามีรายได้หลักมาจาก 2 ทาง ภาคอุตสาหกรรมการส่งออก ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ภาคการส่งออกยังพอเดินได้ รายได้จากส่วนนี้พอเป็นหลักประกันที่มาของรายได้ในการใช้จ่ายภายในประเทศ แต่ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเหลือ 1 เปอร์เซ็นต์ของ GDP ซึ่งก่อนหน้านี้ก่อนโควิดอยู่ที่ 11 เปอร์เซ็นต์ของ GDP หดหายไปเยอะจริงๆ ที่สำคัญวันนี้ผู้ประกอบการภาคธุรกิจการท่องเที่ยวกำลังจะล่มหายตายจากกันหมดแล้ว โดยเฉพาะ SME ทั้งระบบ ธุรกิจต่อเนื่องจากภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกำลังจะตายกันหมดแล้ว อย่าไปกังวลและกลัวโควิด จนสุดท้ายเราสิ้นชีวิตเพราะพิษเศรษฐกิจที่รุมเร้า สนับสนุน100 เปอร์เซ็นต์กับการเปิดเมืองหัวหิน-ชะอำ รับนักท่องเที่ยวโดยไม่กักตัวโดยเฉพาะสายการบินต่างชาติพร้อมแล้วสำหรับนำนักท่องเที่ยวบินตรงมายังสนามบินหัวหิน