"ไฮโซอินน์" เจ้าของแลมโบกินี ยันไม่เอาเงินกระบะแม้แต่บาทเดียว ทั้งในตอนนี้และในอนาคต แถมขอจ่ายค่าซ่อมให้คู่กรณีด้วย
จากกรณีเกิดอุบัติเหตุรถกระบะยี่ห้อนิสสันขับชนท้ายรถหรูแลมโบกินีขึ้ โดยมีการประเมินค่าซ่อม 5 ล้านบาท ซึ่งทางฝั่งรถกระบะไม่มีประกัน โดยภายหลังเกิดเหตุเจ้าของแลมโบกินีหรือ นายกษิดิศ ดุลยจินดา หรือ "อินทร์" ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ นายสุรัศมิ์พรรณ อดีตข้าราชการสำนักงาน ก.พ.และอดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายบริหาร และ ม.ล.ปุญยนุช เกษมสันต์ ดุลยจินดา บอกไม่ติดใจ รถเป็นแค่ของนอกกาย จนกลายเป็นที่ชื่นชมไปทั่วสังคมออนไลน์นั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ต.ค. นายกษิดิศ" ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Kasidith Dulyachinda ระบุว่า ขออนุญาตชี้แจงคำถามที่ทุกท่านสงสัยนะครับ ไม่ว่าตามกฎหมายผลจะชี้ว่าใครถูกหรือผิด
- ประกันภัยเป็นผู้ซ่อมรถให้ผม โดยผมเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเบื้องต้นเอง หรือเรียกว่าค่าเสียหายส่วนแรก เพียง 200,000 บาท , ส่วนที่เหลืออยู่ในการดูแลของบริษัทประกันภัยทั้งหมด
- โดยมีการตกลงร่วมกันกับประกันภัยแล้วว่าจะไม่มีการไปไล่เบี้ยกับคู่กรณีต่อแม้แต่บาทเดียว รวมถึงการฟ้องร้องคู่กรณีในอนาคตด้วย
- ทั้งนี้ตัวผมเองนั้น ก็ได้เสนอช่วยเหลือค่าซ่อมรถให้คู่กรณีทั้งหมด เนื่องจากคู่กรณีไม่มีประกันภัย คิดว่าทุกฝ่ายน่าจะแฮปปี้นะครับ
** การเรียกประกันภัยคือการผ่อนหนักเป็นเบา ให้มีผู้มารับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ให้ โดยการแจ้งอุบัติเหตุในขณะมีคู่กรณี คือการแสดงความบริสุทธิ์ใจให้กับบริษัทประกันภัยด้วยว่าเราไม่ได้ตั้งใจเอาทรัพย์นั้นไปก่อให้เกิดความเสียหาย เป็นเพราะ อุบัติเหตุจริงๆ **
ขอ Edit ข้อความนี้เพิ่มเข้ามา "ผมแจ้งความประสงค์กับทางบริษัทประกันภัยให้ลงประวัติผมเป็นประมาทร่วมได้เลย ผลคือผมต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก เทียบเท่า หรือ เสมือนฝ่ายผิด แต่เงื่อนไขนี้ ทำให้บริษัทสามารถเข้ามาซ่อมรถผมได้ทันที โดยไม่ต้องรอ ให้มีการฟ้องร้องจนมีคำวินิจฉัยเสร็จเด็ดขาด และบริษัทยังไม่ต้องไปเรียกกับคู่กรณีต่อด้วย ต้องขอขอบคุณผู้บริหาร บมจ. ไทยศรี ประกันภัย ทุกท่านที่ทำให้เรื่องนี้ออกมาด้วยดีด้วยครับ ตัวผมเองต้องขออภัยที่ออกมาชี้แจงช้า เดิมทีมีความตั้งใจจะเล่าเรื่องราวทุกอย่างผ่านทางสื่อและรายการต่างๆที่ได้มีการนัดหมายไว้ในสัปดาห์หน้า แต่ในขณะนี้การชี้แจงข้อสงสัยของทุกท่านในตอนนี้เป็นเรื่องสำคัญกว่า ขอบคุณครับ
ขอบคุณเพจ Kasidith Dulyachinda