"จักรพันธ์"เสนอ กทม.เร่งเปิด รร.นานาชาติ 91 แห่ง ต.ค.นี้ เตรียมพร้อมเยาวชนไทยเข้าสู่ระบบการศึกษาเต็มรูปแบบ
เมื่อวันที่ 10 ต.ค. นายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบาย sss (sandbox safety zone in school) โดยกำหนดมาตรการเข้มงวดสำหรับร.ร.ที่ประสงค์ จะกลับมาเปิดเรียนที่โรงเรียนภายใต้การเฝ้าระวังโควิด-19 ซึ่งสำหรับ รร.ไทยทั่วไปยังมีเวลาถึงเดือนพ.ย.เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอม แต่สำหรับกลุ่มร.ร.นานาชาติในต่างจังหวัดและปริมณฑลซึ่งช่วงนี้ยังเป็นช่วงเปิดภาคเรียน และได้เริ่มกลับมาเปิดเรียนกันแล้วภายใต้มาตรการ sss ดังกล่าว เช่นการตรวจ ATK แก่นักเรียนและผู้ปกครอง การฉีดวัคซีนให้ครูและพนักงาน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ รร.นานาชาติ ทั้ง 91 แห่งใน กทม.ยังไม่สามารถเปิดเรียนได้ เนื่องจาก กทม.มีขั้นตอนยุ่งยากกว่าต่างจังหวัดและปริมณฑล ทั้งที่ ร.ร.นานาชาติในกทม.ได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงศึกษาธิการในเรื่องมาตรการที่ร.ร.ดำเนินการตามนโยบาย sss หมดแล้ว อีกทั้ง ร.ร.นานาชาติทั้ง91 แห่ง มีอัตราการฉีดวัคซีนทั้งในส่วนของนร. ครู และผู้ปกครองที่สูงมาก กล่าวคือ 1. นักเรียน อายุ12-18 ปี ได้วัคซีนเข็มแรกแล้ว ณ 6 ต.ค.64 คิดเป็น52.02 เปอร์เซ็นต์ 2. จำนวนครูพนักงานของ ร.ร. ที่ฉีดวัคซีนเข็ม2แล้ว 96.84 เปอร์เซ็นต์ 3. จำนวนผู้ปกครองได้รับการฉีดวัตซีนเข็ม2แล้ว 82.56 เปอร์เซ็นต์
นายจักรพันธ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ รร.นานาชาติใน กทม ได้มีการคัดกรองโดยATK ให้ทุกคนตรวจ โดยต้องมีผลเป็นลบจึงอนุญาตให้เข้า รร. ได้ และ รร. ยังมีแผนเผชิญเหตุตามมาตรการอย่างเข้มงวด ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องไปยังกทม.ให้พิจารณาอนุญาตให้ร.ร.นานาชาติกลับมาเปิดเรียนเป็นปกติโดยเร็ว เพราะหากนับจากเดือนเม.ย.ที่เริ่มมีการล็อคดาวน์รอบล่าสุดถึงปัจจุบัน ถือว่าร.ร.นานาชาติต้องหยุดเรียนมาแล้วถึง7เดือน ซึ่งนานกว่าร.ร.ไทยเนื่องจากช่วง เม.ย.-พ.ค. ยังเป็นช่วงปิดเทอมสำหรับ รร.ไทย แต่เป็นช่วงเปิดเรียนของ รร.นานาชาติ ทำให้ส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของเด็กเป็นอย่างมาก นอกจากนี้หากกทม.อนุญาตให้ร.ร.นานาชาติทั้ง 91แห่งนี้กลับมาเปิดเรียนเป็นปกติได้ในเดือนต.ค.นี้ สิ่งที่กทม.จะได้รับก็คือสามารถใช้เป็นกรณีศึกษาประสิทธิภาพในมาตรการควบคุมโรคโควิด-19กรณีที่ต้องเปิดเรียนโรงเรียนทั้งหมดในพื้นที่กทม.หลายร้อยแห่งในเดือนพ.ย.ที่จะถึงนี้