"คพ.-กอ.รมน."ลงพื้นที่ติดตามแก้ไขปัญหาน้ำเสียจากฟาร์มหมูราชบุรี ขีดเส้นผู้ประกอบการแก้ไขให้ถูกต้อง
เมื่อวันที่ 8 ต.ค. นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) พร้อมด้วย พล.ต. ภัทราวุฒิ ชุณหะวัณ รองผอ.ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กอ.รมน. นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอจอมบึง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 8 ราชบุรี (สสภ.8) สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดราชบุรี (ทสจ.ราชบุรี) สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดราชบุรี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดราชบุรี สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จังหวัดราชบุรี สํานักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 ราชบุรี สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 7 สำนักงานที่ดินจังหวัดราชบุรี กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรจังหวัดราชบุรี (กอ.รมน.จว.ราชบุรี) และ เทศบาลเมืองจอมพล เข้าร่วมตรวจสอบและประชุมแก้ไขปัญหาน้ำเสียรั่วไหลจากฟาร์มเลี้ยงสุกรลงสู่พื้นที่เกษตรกรรม
นายอรรถพล เปิดเผยว่า จากกรณีประชาชน ต.จอมบึง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ร้องเรียนว่า ได้รับความเดือดร้อนจากการมีน้ำไหลผ่านพื้นที่ของฟาร์มเลี้ยงสุกรรั่วไหลเข้าที่ดินของประชาชน เกิดการท่วมขังเป็นเหตุให้ไม่สามารถทำการเกษตรกรรมได้ และมีการร้องเรียนต่อเนื่องมากว่า 3 ปี โดยจากข้อมูลการประกอบกิจการฟาร์มสุกรจัดเป็นฟาร์มสุกรประเภท ก. โดยมีจำนวนสุกรแม่พันธุ์จำนวน 5,100 ตัว สุกรขุนจำนวน20,000 ตัว และลูกสุกร จำนวน 20,000 ตัว ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพประเภท กิจการเลี้ยงสุกรจากเทศบาลเมืองจอมพล และจากการเข้าตรวจสอบและเข้าร่วมประชุมแก้ไขปัญหาน้ำเสียรั่วไหลลงสู่พื้นที่เกษตรกรรม เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2564 ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติร่วมกัน ใน 3 ประเด็น ประกอบด้วย
1 ประเด็นเรื่องที่ดิน ให้เจ้าหน้าที่ที่ดินและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ อำเภอ และ ทต.จอมพล ร่วมดำเนินการตรวจสอบการออกโฉนดรุกล้ำที่ดินสาธารณะและที่ดินป่าไม้หรือที่ดินของรัฐอื่นๆหรือไม่
2 ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม ให้ คพ. พิจารณาค่าปรับ โดยคำนึงถึงปริมาณมลพิษให้เหมาะสมกับความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม และให้ผู้ประกอบการดำเนินการตามคำสั่งทางปกครองในการแก้ไขระบบบำบัดน้ำเสียให้สามารถบำบัดน้ำได้ตามมาตรฐาน และหากเมื่อครบกำหนดคำสั่งทางปกครองในวันที่ 28 ต.ค.2564 แล้ว ผู้ประกอบการไม่สามารถปฏิบัติได้ ให้ สสภ. 8 ดำเนินการปรับตามที่กฎหมายกำหนด
3 การดำเนินการทางปกครอง ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่น (เทศบาล) สั่งให้ผู้ประกอบการแจ้งให้แก้ไขปรับปรุงตามระเบียบและกฎหมาย ภายในวันที่ 8 ต.ค.2564 และให้พิจารณาสั่งพักใบอนุญาต ตามนัยมาตรา 59 ของ พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ตามขั้นตอน รวมถึงการแจ้งความฐานฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าหน้าที่ กรณีผู้ประกอบการไม่ปฏิบัติหรือปฏิบัติไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติของกฎหมาย กฎกระทรวง หรือข้อบัญญัติท้องถิ่น หรือเงื่อนไขที่ระบุไว้ในใบอนุญาต โดยให้ดำเนินการภายในวันที่ 28 ต.ค.2564 และหากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นไม่ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายตามอำนาจหน้าที่ ขอให้ สสภ. 8 ดำเนินการแจ้งความฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา และแจ้ง ปปท. ดำเนินการต่อไป พร้อมทั้งให้เจ้าพนักงานท้องถิ่น (เทศบาล) ดำเนินการตามขั้นตอนส่งเรื่องการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายให้คณะกรรมการเปรียบเทียบ ตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง และให้ คพ. สนับสนุนข้อมูลการตรวจสอบให้ประชาชนนำไปฟ้องศาลปกครอง ให้ศาลปกครองมีคำสั่งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายและปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อให้เพิกถอนใบอนุญาตการประกอบกิจการต่อไป
"ทั้งนี้ ผู้ประกอบการยินดีลงทุนก่อสร้างทางระบายน้ำที่ได้มาตรฐาน ขอให้อำเภอ และ สสภ. 8 จัดประชุมไตรภาคี เพื่อพิจารณาความเหมาะสมและหาทางออกร่วมกัน และหลังจากวันที่ 28 ต.ค. 2564 หากยังมีน้ำเสียรั่วไหลออกสู่สิ่งแวดล้อมและส่งผลกระทบต่อประชาชน จะดำเนินการตามกฎหมาย ทุกฉบับ ทั้งผู้ที่ทำให้เสียหายและเจ้าพนักงานผู้รับผิดชอบตามกฎหมาย"นายอรรถพล กล่าว