ชาวกาฬสินธุ์รอ "มส.-พศ."แจงปลด "เจ้าคุณบัวศรี" ล่าชื่อแตะ 1.3 แสน (มีคลิป)

2021-10-08 16:04:25

ชาวกาฬสินธุ์รอ "มส.-พศ."แจงปลด "เจ้าคุณบัวศรี" ล่าชื่อแตะ 1.3 แสน (มีคลิป)

Advertisement

ชาวกาฬสินธุ์รอฟัง  "มส.-พศ."แจงปลดเจ้าคณะจังหวัด เผยล่าชื่อคัดค้านใกล้แตะ 1.3 แสนคน  เตรียมขออำนาจ "เจ้าคุณบัวศรี" ฟ้องศาลต่อไป

จากกรณีมหาเถรสมาคม (มส.)  มีคำสั่งแต่งตั้งพระสังฆาธิการ และถอดถอนเจ้าคณะจังหวัด 3 รูป โดยปรากฏทางสื่อโซเชียล เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2564 ซึ่งหนึ่งในนั้นมีพระเทพสารเมธี เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ)  ผลดังกล่าวทำให้คณะสงฆ์จังหวัดกาฬสินธุ์ และ ญาติธรรมเคลื่อนไหวคัดค้านทันทีเพราะมองว่าไม่เป็นธรรม และมีการล่ารายชื่อ 1 แสนถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  และส่งหนังสือถึง คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้ตรวจสอบตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น


เมื่อวันที่ 8 ต.ค.  ที่วัดประชานิยม เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์  จ.กาฬสินธุ์ พุทธศาสนิกชนยังคงเดินทางมาปฏิบัติธรรมตามปกติ มีการถวายภัตตาหารเช้า สวดมนต์ รวมทั้งลงชื่อคัดค้านมติมหาเถรสมาคมทั้งระบบออนไลน์ และลงรายมือช่อ  ทำให้ยอดลงชือในวันนี้สูงขึ้นใกล้แตะ 130,000 คน 


น.ส.อิงค์ณภัจฉร์ ชินวัตรนุวงศ์ ประธานชมรมรักพุทธศาสน์นานาชาติ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า การที่ญาติธรรมได้ยื่นเอกสารต่อ คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม ชาวกาฬสินธุ์ คาดหวังที่จะให้คณะ กมธ. เข้ามาตรวจสอบปัญหานี้อย่างจริงจัง ไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เลยตามเลย เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นในวัดอื่นๆในคำสั่งถอดถอน จนกระบวนการทางศาลก็มีการยกฟ้อง หมายถึง พระนั้นไม่ผิด เรื่องนี้ก็เช่นกันประชาชนทุกคนพร้อมที่จะปกป้องเจ้าคุณบัวศรี ถึงแม้ว่าท่านไม่ยินดียินร้ายในเหตุการดังกล่าว ตนมองว่าขณะนี้พุทธศาสนาได้ถูกคุกคามในทุกด้าน ถูกแทรกแซงมีคนไม่หวังดีต่อเสาหลักของชาติ ไม่ว่าจะทางการเมืองหรือทางใด และไม่ว่าจะอยู่ในส่วนของ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)  หรือ ในส่วนของ มส.  พุทธศาสนิชนต้องการทราบข้อเท็จจริงว่าการถอดถอนจริงๆแล้วเกิดขึ้นจากอะไร จึงเรียกร้องขอให้พุทธศาสนิชนทุกคนได้มาร่วมลงชื่อคัดค้านคำสั่ง มส.ที่ดูแล้วอาจจะไม่ชอบด้วยประการทั้งปวง ซึ่งได้กระจายไปทุกกลุ่มไลน์และโลกโชเชียลมีเดียแล้ว


นายสิทธิศักดิ์ ยนตระกูล อดีต ส.ว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า การลงชื่อคัดค้านและมีการนำเสนอไปยัง กมธ.ศาสนา มีความมั่นใจว่า กมธ. จะให้ความเป็นธรรม คงต้องมีการสอบสวนหาที่มาที่ไปให้ได้ว่า สาเหตุปัญหาของการถอดถอนนี้เป็นอย่างไร เพื่อให้ลูกศิษย์ได้รับรู้ ว่ามีข้อเท็จจริงขนาดไหน หรือหากไม่มีข้อเท็จจริงเพียงพอชาวกาฬสินธุ์คงไม่ยอม เพราะชาวกาฬสินธุ์มีความมั่นใจในคุณงามความดีและปฏิปทาของท่านเจ้าคุณบัวศรี เพราะท่านเป็นพระที่มีวินัย มีเมตตา ตลอดมา จึงขอถามว่า มส.กำลังทำอะไรอยู่เพราะเหตุนี้ได้สร้างความเสียใจอย่างมากต่อชาวพุทธกาฬสินธุ์

ส่วนความเคลื่อนไหวในกลุ่มลูกศิษย์ของเจ้าคุณบัวศรีทราบว่า คณะศิษยานุศิษย์ ได้ติดตามข่าวอย่างต่อเนื่องและสื่อทุกช่อง ทุกฉบับได้รายงานเกาะติดมีการพูดถึงปัญหามีการให้ข่าวสาเหตุการถอดถอนไปต่างๆนานา โดยเฉพาะอ้างว่า เจ้าคุณบัวศรี ละเว้นการลงโทษพระผู้ใหญ่รูปหนึ่งที่เสพเมถุนกับสีกาเมื่อหลายปีก่อน




ดร.กฤตชญา วิเชียรเพริศ ลูกศิษย์พระเทพสารเมธี กล่าวว่า การนำเสนอข่าวถือเป็นสิ่งที่ดีงามเพราะต้องตีแผ่เปิดเผยความจริง แต่ต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ในกรณีปัญหาพระผู้ใหญ่เสพเมถุน และมีการกล่าวหา เจ้าคุณบัวศรี ซึ่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดไม่สืบสวนลงโทษนั้นไม่เป็นความจริง เพราะเท่าที่ทราบกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงปี 2559 คณะสังฆาธิการจังหวัดกาฬสินธุ์(ธ) มีการตั้งอธิกรณ์สืบสวนความจริง และทราบว่ามีการฟ้องคดี ซึ่งในส่วนของ สีกา ก็ได้รับความเป็นธรรมทางศาล ไปแล้ว ในส่วนของวินัยสงฆ์มีการทำเอกสารแจ้งไปยังสำนักดพระพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่อง แต่เพราะเป็นพระผู้ใหญ่จึงต้องดำเนินการตามอธิกรณ์ของ พ.ร.บ.สงฆ์ และเมื่อช่วงต้นปีก็มีกระบวนการอธิกรณ์ และมีการนำเสนอข่าวโดยสื่อมวลชน แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด รวมไปถึง มีการเข้าพรรษาจึงทำให้ดูเหมือนว่าทาง เจ้าคุณบัวศรีไม่ได้ดำเนินการอย่างใด


“กรณีนี้หาก มติมหาเถรสมาคม หรือ พศ. ใช้เป็นข้อกล่าวหานั้น ควรอย่างยิ่งที่จะต้องให้ความเป็นธรรม เพราะชัดเจนว่า การถอดถอน ยังไม่มีการตั้งอธิกรณ์มาตรวจสอบข้อเท็จจริง ต่อเจ้าคุณบัวศรี ไม่เปิดโอกาสให้มีการพิสูจน์ คนกาฬสินธุ์ จึงมองว่าไม่มีความเป็นธรรมต่อเจ้าคุณบัวศรีและคนกาฬสินธุ์ ที่นับถือท่าน ยังถือเป็นการทำลายความศรัทธาต่อศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธ ซึ่งขณะนี้ทราบว่ามีการติดต่อมาอย่างไม่เป็นทางการจาก ฝ่ายมหาเถรสมาคม หรือแม้แต่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ว่าจะเดินทางมาชี้แจงต่อชาวกาฬสินธุ์ว่ามีมติถอดถอนเจ้าคุณบัวศรีด้วยสาเหตุอะไร เราทุกคนพร้อมที่จะรับฟังและจับเขาคุยกันพร้อมปูเสื่อต้อนรับอย่างดี แต่หากมาเพียงชี้แจงแต่ตอบข้อซักถามทางกฏหมายไม่ได้ โดยไม่ได้รับความเป็นธรรม พุทธศาสนิกชนก็คงจะคว่ำบาตรต่อไป”ดร.กฤตชญา กล่าว


ดร.กฤตชญา กล่าวต่อว่า กระบวนการทวงความเป็นธรรมเกิดขึ้นในกลุ่มญาติธรรม คนกาฬสินธุ์ เพราะนอกจากเป็นการทำลายพระที่มีปฏิปทาแล้ว ยังถือเป็นการทำลายชื่อเสียงคนกาฬสินธุ์ การ มีกฏบ้าน กฏหมายก็เพื่อกำกับดูแลให้สังคมมีระเบียบมีความถูกต้องอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข และในเมื่อมี พ.ร.บ.สงฆ์ก็ต้องให้ความเป็นธรรมด้วย ซึ่งขณะนี้คณะศิษยานุศิษย์ กำลังพูดคุยกันว่าจะเข้าไปขอกราบเจ้าคุณบัวศรีให้มอบอำนาจเพื่อดำเนินการฟ้องศาลปกครองและศาลคดีทุจริตกับ มส. และ พศ.ต่อไป