ปลัด สธ.ชี้โควิดใต้พุ่งเร่งควบคุม

2021-10-07 14:18:39

ปลัด สธ.ชี้โควิดใต้พุ่งเร่งควบคุม

Advertisement

ปลัด สธ. ชี้โควิดภาคใต้พุ่ง เร่งควบคุมโรค ขอผู้นำศาสนาสร้างความเข้าใจคนในพื้นที่รับวัคซีน ชี้หากคุมไม่อยู่ ไฟเขียวล็อกดาวน์ได้

เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข  (สธ.) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ในประเทศไทยว่า สถานการณ์ใน กทม.และปริมณฑล มีแนวโน้มลดลง โดยเฉพาะ กทม.ค่อยๆ ลดลงตามลำดับ การติดเชื้อต่ำลงเรื่อยๆ อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ส่วนต่างจังหวัดตัวเลขการติดเชื้อค่อยๆ ลดลงช้าๆ ยกเว้น 4 จังหวัดชายแดนใต้ ที่พบว่ามีการระบาดเพิ่มมากขึ้นที่ต้องความพยายามควบคุมป้องกันโรคให้ได้ ทั้งการปูพรมฉีดวัคซีนให้มีความครอบคลุม การค้นหาผู้ติดเชื้อ แยกตัว เพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อ ไม่เช่นนั้นจะเกิดการระบาดเหมือนใน กทม.

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า จากการติดตามสถานการณ์ในพื้นที่พบว่ามีการติดเชื้อทั้ง 3 สายพันธุ์ ทั้งเบตา อัลฟา และเดลตา ดังนั้นจึงมีการจัดสรรควัคซีนลงไปเพิ่มทั้งซิโนแวค แอสตร้าเซนเนก้า และไฟเซอร์ ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีเชื้อทั้ง 3 สายพันธุ์ แต่การฉีดวัคซีนยังเป็นสูตรมาตรฐานของประเทศ เพราะสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้สูง แม้ว่าบางสายพันธุ์เปอร์เซ็นต์อาจจะลดลงบ้าง แต่ก็ป้องกันอาการรุนแรงได้ อย่างไรก็ตาม ความครอบคลุมในการฉีดวัคซีนในพื้นที่ภาคใต้ยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ต้องการมากนัก จึงขอความร่วมมือกับผู้นำศาสนาให้ช่วยเรื่องการทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ด้วย ส่วนมาตรการล็อกดาวน์ นั้นก็ได้ให้เป็นนโนบายเอาไว้ หากยังควบคุมโรคไม่ได้ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เรามีมาตรการต่างๆ แล้ว คาดว่า 1 เดือนหลังจากนี้สถานการณ์คงจะดีกว่านี้ขึ้นมาก แต่สิ่งสำคัญคือความร่วมมือของทุกฝ่ายในพื้นที่  สำหรับสถานการณ์เตียงยังเพียงพอรองรับผู้ป่วยได้ เพราะปัจจุบันมีการครองเตียงอยู่ 60% ขณะเดียวกันก็มีการเปิด รพ.สนามขนาดใหญ่เอาไว้รองรับ แต่ก็ประมาทไม่ได้ เพราะมีตัวอย่างที่ รพ.บุษราคัม ซึ่งเปิดมาเป็น รพ.ขนาดใหญ่ แต่ไม่นานก็เต็ม ดังนั้นทางที่ดีคือต้องเร่งควบคุมโรคโดยมีการส่งยาฟาวิพิราเวียร์ลงไป กว่า 1 ล้านเม็ด และชุดตรวจ ATK จำนวนมาก