"ภราดร -กรวีร์"ลุยช่วยน้ำท่วมอ่างทองยันไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

2021-10-05 17:39:15

 "ภราดร -กรวีร์"ลุยช่วยน้ำท่วมอ่างทองยันไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

Advertisement

"ภราดร -กรวีร์"ลงพื้นที่ช่วยชาวอ่างทองประสบภัยน้ำท่วม ยันไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

เมื่อวันที่ 5 ต.ค. นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง โฆษกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.อ่างทอง ซึ่งได้รับผลกระทบจากพายุเตี้ยนหมู่ โดยไล่ตามลำดับของปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ อ.ป่าโมก อ.เมือง อ.วิเศษชัยชาญ และ อ.ไชโย แม้ว่าปริมาณน้ำจะน้อยกว่าปี 2554 แต่ระดับความสูงของน้ำอาจจะสูงกว่า เนื่องจากปี 2554 พบว่าปริมาณน้ำได้ไหลผ่านไปทาง จ.ลพบุรี เพราะบางโฉมศรีแตก ทำให้ริมแม่น้ำเจ้าพระยาระดับน้ำไม่สูงเท่าขณะนี้ ที่สำคัญปีนี้น้ำมาเร็ว จึงทำให้เวลาการเตรียมตัวรับมือของหน่วยงานต่างๆ จึงมีไม่มาก  สำหรับที่คาดการณ์ว่าถ้ามีพายุเข้ามาอีก เป็นเรื่องของเวลาว่าจะเข้ามาเมื่อไหร่ ซึ่งตอนนี้น้ำที่ท่วมอยู่ จ.สุโขทัย กำแพงเพชร และพิษณุโลก ก็จะไหลลงสู่ภาคกลางทันที ซึ่งการระบายน้ำเป็นสิ่งสำคัญที่สุดว่าจะระบายได้เร็ว มากน้อยเพียงใด ถ้าระบายน้ำหมด หรือระบายได้เร็ว และมีพื้นที่รับน้ำเพียงพอ ในช่วงฝนตกหรือพายุลูกใหม่เข้ามา ก็อาจจะไม่เสียหายมากนัก แต่ถ้าน้ำยังไม่ได้มีการระบายอย่างเพียงพอ ก็อาจจะทำให้พื้นที่เสียหายมาก


นายภราดร กล่าวด้วยว่า การช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบในครั้งนี้ ตน และนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ลงพื้นที่มอบสิ่งของอุปโภค-บริโภค อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ทางสมาคมผู้ส่งออกข้าวแห่งประเทศไทย ได้นำข้าวสารมามอบให้ และได้มีการร่วมกับ อบจ.อ่างทอง ที่ได้มีการจัดสรรซื้ออาหารแห้งต่างๆ มารวมกับข้าวสารที่ได้รับบริจาคมา และไปมอบให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบความเดือดร้อน ทั้งนี้ ในวันที่ 9 ต.ค.นี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข จะลงพื้นที่มาช่วยเหลือ อีกทั้งจะมีการหารือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนต่อไป ส่วนเกษตรกรผู้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำที่ระบายในทุ่ง พืชสวน และพืชไร่ มีผลกระทบพอสมควร ก็จะต้องเร่งดำเนินการในการช่วยเหลือ มั่นใจว่า ทางรัฐบาลจะมีการชดเชย และเยียวยาในความเสียหายแก่เกษตรกรอย่างแน่นอน


นายภราดร กล่าวว่า นอกจากนี้ ในส่วนของการบริการด้านสาธารณสุข ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมโรค และเรื่องของการฉีดวัคซีนโควิด-19 อาจจะมีการเดินทางไปโรงพยาบาลอย่างยากลำบากมากขึ้น รวมถึงการลงพื้นที่ตรวจเชิงรุกของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากสภาพการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวย แต่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็ทำงานกันอย่างเต็มที่อยู่แล้ว แม้ว่าจะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านของการดำรงตำแหน่งก็ตาม และที่สำคัญในสถานการณ์เช่นนี้ ต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังอย่างแน่นอน