“สิระ”เตรียมยื่นหนังสือถึง กก.บห.พปชร. ลงดาบ "พ.อ.สุชาติ” ยันเสนอชื่อ “บิ๊กตู่”เป็นแคนดิเดตนายกฯพปชร.แน่นอน
เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่รัฐสภา นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการเรียกร้องให้ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล อดีตประธานยุทธศาสตร์ภาคใต้ พรรคพลังประชารัฐ และผู้ร่วมก่อตั้ง พปชร. ลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ว่า ตนไม่มีเวลาไปพบพ.อ.สุชาติ ตามที่พูดไว้ว่าจะเอาใบลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐไปให้เซนถึงที่ เนื่องจากเมื่อวันที่ 4ต.ค.ที่ผ่านมา ตนจองตั๋วเครื่องบินขากลับ กทม. หลังจากเสร็จงานที่ จ.สงขลา ไว้ในเวลา 18.00น. แต่เสร็จงาน 17.00 น. ดังนั้น จึงไม่ได้ไปพบพ.อ.สุชาติ แต่ฝากนักข่าวไป เรื่องนี้ตนไม่คุย พ.อ.สุชาติต้องพิจารณาตัวเอง ตนได้ส่งหนังสือให้พ.อ.สุชาติเซ็นลาออกจากพรรคไปแล้ว เพื่อให้ส่งไปที่ กกต.สงขลา หรือส่งมาให้พรรคพลังประชารัฐก็ได้ หากไม่เซ็น จะทำหนังสือถึงกรรมการบริหารพรรคให้ประชุมเพื่อมีมติอย่างใดอย่างหนึ่งออกมาว่า การกระทำของ พ.อ.สุชาติมีความผิดถึงขั้น “ให้ออก” หรือ “ไล่ออก” หรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้หลายพรรคการเมืองเริ่มเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแล้ว พรรคพลังประชารัฐยืนยันจะเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เหมือนเดิมหรือไม่ นายสิระ กล่าวยืนยันว่า พรรคเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์เหมือนเดิม เพราะพรรคพลังประชารัฐยังอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ ส่วนพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ที่แถลงข่าวทุกสัปดาห์ตำหนิพรรคพลังประชารัฐว่า หมดยุคและแย่งชิงอำนาจกันนั้น ขอให้นายยุทธพงศ์ไปดูบ้านตัวเองก่อนว่า ลูกพรรคหนีไปกี่คนแล้ว เป็นเพราะปากนายยุทธ์พงศ์หรือไม่
“ที่บ้านผมบอกว่าอย่าเสือกเรื่องพรรคพลังประชารัฐ เอาเรื่องของตัวเองให้รอดก่อนนะพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะคดีที่อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลฟ้อง และคดีอื่นๆอีกมากเอาให้รอดก่อน อย่าเสือกเรื่องพรรคอื่น ส.ส.โจ้ เป็นเพื่อนผมมา 30ปี เมื่อก่อนไม่เคยมีเรื่องอะไรกัน แต่พอเป็นรองหัวหน้าพรรค ทุกอาทิตย์ต้องมาแถลงข่าวกล่าวหาพรรคคนอื่น ไม่เหมาะสม ตัวเองเคยเป็นรมช.เกษตรฯ อยากโชว์ผลงานกับนายใหญ่หรือ เลิกพฤติกรรมอย่างนี้ได้แล้ว เอาเรื่องในบ้านตัวเองให้รอดก่อน ผมไม่เคยไปก้าวก่ายพรรคเพื่อไทยไม่ว่าจะลงมติสวน ส.ส.เพื่อไทย อดอยากอย่างไร จนต้องจะย้ายพรรคกัน”นายสิระ กล่าว
เมื่อถามถึง ประเด็นข้อถกเถียงเกี่ยวกับอายุการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตีรของพล.อ.ประยุทธ์ ที่มีการตีความจะหมดวาระ 8 ปี ในเดือนส.ค.2565 นายสิระ กล่าว ว่า เรื่องนี้สุดท้ายต้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งในเรื่องนี้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เคยพูดไว้ว่าเรื่องนี้ยังไม่เกิดเหตุ ต้องรอให้เกิดเหตุมีข้อสงสัยแล้วส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตนคิดว่าความคิดของนักกฎหมายไปคนละทาง ใครคิดตรงข้ามก็ได้ออกสื่อ แต่ถ้าคิดเหมือนคนอื่นก็จะไม่ได้ออกสื่อ คนที่คิดตรงข้ามมีความต้องการออกสื่อหรือไม่ แต่ทุกคนเรียนกฎหมายฉบับเดียวกัน ทำไมต้องขัดแย้งกันหนักหนา สุดท้ายคนที่มองพลาดไม่เคยออกมาขอโทษสังคมหรือรับผิดเลย