"นิยม"โชว์เอกสารคาดสอดไส้ปลด 3 เจ้าคณะจังหวัด

2021-10-04 14:29:50

"นิยม"โชว์เอกสารคาดสอดไส้ปลด 3 เจ้าคณะจังหวัด

Advertisement

"นิยม"โชว์เอกสารปลด  3 เจ้าคณะจังหวัด เชื่อเป็นการสอดไส้ จี้แก้ไขก่อนบานปลาย

จากกรณีมหาเถรสมาคม (มส.) มีคำสั่งแต่งตั้งพระสังฆาธิการ และถอดถอนเจ้าคณะจังหวัด 3 รูป โดยปรากฏทางสื่อโชเชียล เมื่อวันที่ 30 ก.ย.2564 ซึ่งหนึ่งในนั้นมีพระเทพสารเมธี เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ รวมอยู่ด้วย ผลดังกล่าวทำให้คณะสงฆ์จังหวัดกาฬสินธุ์ เคลื่อนไหวมีมติคัดค้านทันทีเพราะมองว่าไม่เป็นธรรม ไม่มีเหตุที่จะปลดและคำสั่งนี้ทำให้ประชาชนเสียขวัญเนื่องจากพระเทพสารเมธีเป็นพระที่มีปฏิปทาที่งดงาม ทำให้ชาวกาฬสินธุ์ล่าชื่อให้ครบ 1 แสนรายชื่อเพื่อยื่นถวายฎีกา ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 4 ต.ค.  ดร.นิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย  (พท.)  ซึ่งกำลังรวบรวมเอกสารหลักฐาน การประชุม และคำสั่งปลดที่ไม่เป็นธรรมเพื่อตั้งกระทู้สดในสภาเพื่อถามฝ่ายการเมืองที่รับผิดชอบสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เกี่ยวกับปัญหานี้ ได้แสดงเอกสารที่ได้มาพบว่าการประชุมครั้งนั้นเป็นระบบซูม และไม่มีในวาระการประชุมแต่เป็นการสอดไส้พิจารณาเพื่อทราบเท่านั้น


ดร.นิยม กล่าวว่า ขณะนี้ได้รวบรวมเอกสารหลักฐานเพื่อเตรียมตั้งกระทู้สดถามในสภาเอาไว้แล้ว จากการพิจารณาในฐานะที่อยู่ในวงการสงฆ์มาตลอด มติคำสั่งปลดของ มหาเถรสมาคม เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2564 ถือว่าไม่สมบูรณ์ ไม่ถูกต้อง ว่าด้วยกฎมหาเถรสมาคมฉบับที่ 24 (2541) หมวด 4 ส่วนที่ 1 การละเมิดจริยา ข้อ 55 การถอดถอนจากตำแหน่งหน้าที่นั้น จะทำได้ต่อเมื่อพระสังฆาธิการละเมิดจริยา อย่างร้ายแรงข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้ 1.ทุจริตต่อหน้าที่ 2.ละทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุอันสมควรเกิดกว่า 30 วัน 3.ขัดคำสั่งอันชอบด้วยการคณะสงฆ์และการขัดคำสั่งเป็นให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่คณะสงฆ์ 4.ประมาทเลินเล่อ อันเป็นเหตุความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่คณะสงฆ์ และ 5. ประชั่วอย่างร้ายแรง ซึ่งบัญญัติว่า ในกรณีเช่นนี้ให้ผู้บังคับบัญชาใกล้ชิดรายงานโดยลำดับจึงถึงผู้มีอำนาจแต่งตั้งเมื่อได้สอบสวนได้ความจริงตามรายงานแล้วให้ผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนจากตำแหน่งหน้าที่ได้

“ในกรณีคำสั่งปลด เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2546 ยังเป็นการประชุมในระบบซูม ในวาระการประชุมก็ไม่มีเรื่องการพิจารณาให้ปลดสามพระสังฆาธิการ แต่มีพระผู้มากบารมี นำเอกสารปลด ให้คณะ มส.พิจารณา เพื่อทราบ และทราบว่า มีการทักท้วงจากคณะกรรมการมหาเถรสมาคมหลายรูป เพราะสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งในคณะสงฆ์ไทยแต่ในที่ประชุมก็ปล่อยให้ผ่านไป ด้วยการรับทราบ ตนเห็นว่าพฤติกรรมนี้ขัดต่อหลักอธิกรณ์ ที่เป็นเรื่องคดีความในทางสงฆ์ เพราะการปลดพระระดับสังฆาธิการจะต้องมีการสอบสวนตรวจสอบ แต่เมื่อไม่มีคำอธิบายใด จึงถือเป็นการทำลายความเชื่อศรัทธาของประชาชนที่มีต่อพุทธศาสนา


ดร.นิยม กล่าวต่อว่า ตนได้รับการประสานจากพุทธศาสนิกชนคนกาฬสินธุ์และในหลายจังหวัดทางภาคอีสานที่เคลื่อนไหวในกรณีนี้ และได้ทราบข่าวจากคณะสังฆาธิการกาฬสินธุ์ ว่าจะเดินทางเข้าสำนักพระราชวัง และวัดราชบพิตรอย่างแน่นอน ในครั้งแรกคณะสงฆ์จะเข้ามาในวันนี้ (4 ต.ค.) แต่เห็นว่าเดินทางไกลและมีปัญหาโควิด จึงจะรอเดินทางมาพร้อมพี่น้องประชาชนกาฬสินธุ์ โดยให้รายชื่อครบหนึ่งแสนเพื่อถวายฎีกาก่อน คาดว่าจะแล้วเสร็จในเร็วๆนี้ จึงขอให้ มส.เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาที่จะบานปลายต่อความเสื่อมศรัทธาในทางปกครองของคณะสงฆ์ ในส่วนของตนก็จะพิสูจน์หาความจริงว่าใครเป็นผู้สอดไส้คำสั่งปลดนี้เพื่อนำไปอภิปรายในสภาในประชาชนชาวพุทธได้รับทราบโดยทั่วกัน