"นิยม" เชื่อมีเบื้องหลังปลดเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ พระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ชี้เป็นการทำลายพระสังฆาธิการที่มีปฏิปทาดีงามเหมือนให้ตายทั้งเป็น ลั่นเปิดสภาฯอภิปรายให้ประชาชนได้รับรู้กระบวนการล้มล้างศาสนา
จากกรณีประชาชนคนกาฬสินธุ์ เคลื่อนไหว คัดค้าน คำสั่งมหาเถรสมาคม (มส.) ที่แต่งตั้งพระสังฆาธิการ และถอดถอนเจ้าคณะจังหวัด 3 รูป เมื่อวันที่ 30 ก.ย.2564 ซึ่งหนึ่งในนั้นมีพระเทพสารเมธี เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ) ส่งผลให้คณะสงฆ์จังหวัดกาฬสินธุ์(ธ)มีมติคัดค้านทันที ล่าสุดมีการล่ารายชื่อประชาชน 1 แสนคนเพื่อถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ดร.นิยม เวชกามา ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.สกลนคร ได้ให้ข้อมูลทางโทรศัพท์ ว่า กรณีดังกล่าวเชื่อว่ามีกระบวนการสอดไส้ เพื่อทำลายความศรัทธาของชาวพุทธในกรณีปลดพระสังฆาธิการทั้ง 3 รูปนั้น มีการสอดไส้รายชื่อบิดเบือนเบื้องสูงอย่างแน่นอน และมีเบื้องหน้าเบื้องหลังในการกลั่นแกล้งพระสังฆาธิการทั้ง 3 รูป ตัวอย่างในกรณี พระเทพสารเมธี เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์(ธ) ทั้งที่มีปฏิปทาที่งดงาม เป็นพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ซึ่งขณะที่ตนบวชเรียนเป็นมหา ก็เคยเห็น พระเทพสารเมธี ซึ่งขณะนั้นเป็นพระเลขาของหลวงปู่อ่อน เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์(ธ) สมัยนั้น ยังเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย ยังมี พระอาจารฝั้น อาจาโร เป็นต้น
“จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ที่จะมีคำสั่งปลดนี้ เพราะเป็นการทำลายพระสังฆาธิการที่มีปฏิปทาดีงาม เหมือนให้ตายทั้งเป็น เรื่องนี้มีเบื้องหน้าเบื้องหลังที่ผมพอจะรู้มาแล้วว่ามีความเป็นมาอย่างไร เพราะมีฆราวาสเข้าไปยุ่งในกิจการของสงฆ์ คอยชักจูงไปในทางเสียหาย มีการตั้งพวกพ้องของตนเอง แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าจะกล้าตั้งพระครูที่มีตำแหน่งเล็กๆ ข้ามห้วยไปเป็นเจ้าคณะจังหวัด” ดร.นิยม กล่าว
ดร.นิยม กล่าวว่า ขณะนี้ในการเคลื่อนไหวได้ทำการประสานสำนักพระราชวัง ในการถวายฎีกาต่อในหลวงรัชกาลที่ 10 โดยในส่วนของสายคณะสงฆ์พระป่า จะนำเรื่องราวทูลเกล้าให้พระองค์ทรงทราบข้อเท็จจริงที่จะต้องมีการเปิดเผยว่าใครเป็นคนที่อยู่เบื้องหลัง ที่มีพระเข้าข่าย “สังฆเภท” หลายองค์ อีกทั้งเรื่องนี้เมื่อเปิดสภา ตนและ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ก็จะอภิปรายในสภาให้ประชาชนได้รับรู้รับทราบต่อกระบวนการล้มล้างศาสนาพุทธต่อไป
"ขอฝากถึงกรรมการมหาเถรสมาคมได้ทบทวนเรื่องดังกล่าว การปลดพระสังฆาธิการ ซึ่งเป็นพระผู้ใหญ่ที่มีคนเคารพนับถือทั้งจังหวัด จะต้องมีเหตุผล จะต้องมีอธิกรณ์ ไม่ใช่ไปฟังคำสั่งของฆราวาส ผู้มีอำนาจบางคน ไม่นึกถึงจิตใจของพุทธศาสนิกชน เป็นการทำลายจิตใจชาวพุทธ แตกแยกกันไปหมด ถึงเข้าข่ายทำสังฆเภทในหมู่สงฆ์ โดยเฉพาะ จ.กาฬสินธุ์ ปลดพระผู้ใหญ่ชั้นเทพ แล้วแต่งตั้งพระครู เจ้าคณะอำเภอ จาก อ.สังคม จ.หนองคาย มาเป็นเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์แทน อาวุโสยังน้อยกว่า รองเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์รูปปัจจุบันด้วยซ้ำ อย่างนี้ มันเป็นเรื่องฆราวาสไม่รู้เรื่องพระ แต่มาสร้างปัญหาให้พระ เสียหายกับมหาเถรสมาคมมาก ยิ่งการปกครองสงฆ์ ฝ่ายธรรมยุต ท่านถือเรื่องอายุพรรษามาก เคารพนับถือกันตามอายุพรรษา ท่านไม่ใช่ผู้ว่าฯ ไม่ใช้นายอำเภอ หรือกำนัน ผู้ใหญ่บ้านที่เป็นลูกน้องในสังกัดฆราวาส เหมือนฝ่ายโลก นึกจะย้ายจะถอดก็ย้ายก็ถอด ไม่ต้องมีเรื่องให้สอบอธิกรณ์ มันผิดเพี้ยนแบบนี้ ซึ่งผมจะตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีอีกทาง ว่า มีฆราวาสข้างนอกซึ่งไม่เกี่ยวกับสงฆ์มายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ และจะเสนอให้คณะกรรมาธิการการศาสนาหาความจริงเรื่องนี้ด้วย"ดร.นิยม กล่าว