กองกำลังรักษาสันติภาพสหประชาชาติในคองโก เสียท่าถูกกองกำลังกบฏบุกโจมตีฐานที่มั่นในช่วงเย็นวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา มีทหารเสียชีวิตไป 15 นาย บาดเจ็บอีก 50 นาย และยังสูญหายอยู่อีก 3 นาย
กองกำลังพันธมิตรประชาธิปไตย หรือเอดีเอฟ ซึ่งเป็นกลุ่มกบฏ ในภาคตะวันออกของคองโก ปฏิบัติการโจมตีฐานที่มั่นกองกำลังรักษาสันติภาพสหประชาชาติ อย่างหนักหน่วงรุนแรงที่สุดในรอบเกือบ 25 ปีจากการโจมตีครั้งเดียว ส่งผลให้ทหารยูเอ็นเสียชีวิตไป 15 นาย และบาดเจ็บอีกกว่า 50 นาย ในช่วงกลางดึกวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และปะทะกันนานหลายชั่วโมง โดยฐานทัพของกองกำลังรักษาสันติภาพยูเอ็นตั้งอยู่ห่างจากเมืองเบนี ประมาณ 45 กิโลเมตร เป็นที่ประจำการของกองกำลังตอบโต้เร็วของยูเอ็น
นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็น แสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรงและเสียใจอย่างสุดซึ้ง และเรียกการโจมตีครั้งนี้ว่า เป็นอาชญากรรมสงคราม พร้อมเรียกร้องให้ทางการคองโก เร่งสอบสวนโดยเร็ว ขณะที่ นิค เบิร์นแบ็ค โฆษกของสำนักงานรักษาสันติภาพยูเอ็น กล่าวว่า เป็นการโจมตีที่นองเลือดที่สุดต่อกองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็น ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2536 ซึ่งครั้งนั้น มีทหารปากีสถานเสียชีวิต 22 นาย ในกรุงโมกาดิชู เมืองหลวงโซมาเลีย
ทหารรักษาสันติภาพที่ถูกสังหารเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่าน เป็นทหารจากแทนซาเนีย ซึ่งประธานาธิบดีจอห์น มากูฟูลี ของแทนซาเนีย รู้สึกตกใจ และสวดมนต์ให้ผู้บาดเจ็บ ซึ่งยังมี 3 คน อาการสาหัส นอกจากนี้ ยังมีทหารคองโกอย่างน้อย 5 นายเสียชีวิตด้วย ถือว่าเป็นการโจมตีของกลุ่มกบฏครั้งนองเลือดที่สุดในภูมิภาคอีกครั้งหนึ่ง
เจ้าหน้าที่ยูเอ็น กล่าวว่า มีทหารรักษาสันติภาพยูเอ็นสูญหาย 3 นาย และมากกว่า 20 นายถูกอพยพไปรักษาตัวในโรงพยาบาลเมืองโกมา