ตร.ไม่ให้ประกันตัว "พิยดา" ในชั้นสอบสวน เตรียมคุมตัวส่งฝากขังศาล 29 ก.ย. พร้อมคัดค้านการประกันตัว
จากกรณี พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) แถลงจับกุม น.ส.นฤมล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี และ น.ส.สายน้ำผึ้ง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาหลอกขายโทรศัพท์มือถือให้น้องก้อง อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ แต่ไม่ได้มือถือ จนน้องก้องเกิดความเครียดเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทั้งนี้ 2 สาวที่ถูกจับกุมอ้างว่ารับจ้างเปิดบัญชีให้ น.ส.พิยดา ทองคำพันธ์ อายุ 19 ปี จากการสืบสวนขยายผลทราบว่า น.ส.พิยดา เป็นตัวการสำคัญในการก่อเหตุ กับพวก ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) จึงได้เสนอเรื่องต่อคณะกรรมการธุรกรรมในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ซึงมีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราวจำนวน 10 รายการ ประกอบด้วย เงินสด โทรศัพท์มือถือ ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร รวมราคาประเมินทั้งสิ้นประมาณ 7,944,474.85 บาท พร้อมดอกผลตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 28 ก.ย. พล.ต.ต.พิเชษฐ จิระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าวว่า คดีนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รวมทั้ง ผบ.ตร. ให้ความสนใจเป็นอย่างมากและกำชับในการติดตามคดีที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด ตำรวจได้กดดันทุกวิธีทาง เพราะหลังเกิดเหตุ น.ส.พิยดา ได้หลบหนีหายตัวไป จนกระทั่งทนายความพามาพบกับตำรวจเพื่อขอมอบตัวตามหมายจับ แต่ผู้ต้องหามีหมายจับ จึงจับกุมตัวและแจ้งข้อกล่าวหาให้รับทราบ คดีที่เกิดขึ้นกระทบต่อจิตใจคนทั้งประเทศ ผู้ต้องหาจะให้การว่าอย่างไร ก็เป็นเรื่องของผู้ต้องหา เรามีหน้าที่สืบสวนสอบสวน หาหลักฐานมาเอาผิดกับผู้ต้องหา และจะขยายผลว่ายังมีคนอื่นที่ร่วมขบวนการนี้อีกหรือไม่
ต่อมาช่วงบ่าย ตำรวจได้นำตัว น.ส.พิยดา ไปสอบปากคำเพื่อขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการ ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 (บช.ภ.5) โดยมี พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบก.สส.ภ.5 เป็นผู้สอบปากคำนานกว่า 1 ชั่วโมง ทางเจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปส่งดำเนินดคีตามกฎหมายที่ สภ.นาหวาย เพื่อให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำ โดยไม่ให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน และจะนำตัวฝากขังศาลจังหวัดศาล ในวันที่ 29 ก.ย. พร้อมยื่นคัดค้านการประกันตัวในชั้นศาลด้วยเช่นกัน
พ.ต.อ.ธวัชชัย กล่าวว่า จากการสอบสวนอย่างละเอียดผู้ต้องหาไม่ยอมให้การใดๆ เพียงแต่ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมบอกว่า จะชี้แจงทุกอย่างทางชั้นศาลต่อไป ตอนนี้เราก็นำตัวเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย ส่งตัวให้พนักงานสอบสวนส่งศาล ส่วนจะมีการให้ประกันตัวหรือไม่อยู่ที่ดุลพินิจของศาล และตัวผู้ต้องหายังมีหมายจับอีกหลายคดี ก็มีการแจ้งอายัดมาที่ศาลจังหวัดฝาง แล้วขั้นตอนต่อไป จะขยายผลการจับกุมว่า ขบวนการนี้มีใครเกี่ยวข้องอีก หากมีก็จะจับกุมเพิ่มเติมให้หมด ส่วนความผิดของผู้ต้องหาเรามีพยานหลักฐานมัดแน่น ก่อนขอศาลออกหมายจับ เชื่อว่าจากหลักฐานที่มีจะเอาผิดกับผู้ต้องหาได้ ส่วนทรัพย์สินของผู้ต้องหาทั้งบ้านหรู รถหรู เงินสดกว่า 40 ล้านในบัญชี ทางตำรวจเราก็เสนอให้ ปปง. เป็นคนดำเนินการหากพบผิดก็จะเข้าข่ายยึดทรัพย์ต่อไป