“น้าโย่ง - น้านงค์ - น้าพวง” แฉกันสนั่นจอ แง้มวีรกรรมเจ้าชู้ เมียฉีกเสื้อ ไล่ออกจากบ้าน ?

2021-09-26 08:00:39

“น้าโย่ง - น้านงค์ - น้าพวง” แฉกันสนั่นจอ แง้มวีรกรรมเจ้าชู้ เมียฉีกเสื้อ ไล่ออกจากบ้าน ?

Advertisement

เพื่อนรักกว่า 50 ปี “น้าโย่ง - น้านงค์ - น้าพวง” แฉกันสนั่นจอ แง้มวีรกรรมเจ้าชู้ เมียฉีกเสื้อ ไล่ออกจากบ้าน ?



เปิดตำนานเพลงฉ่อยของเมืองไทย ทั้งน้าโย่ง น้าพวง น้านงค์ แฉกันสนั่นจอ พร้อมทั้งเล่าวิกฤติโควิด-19 ที่ต้องเอาเงินเก็บออกมาใช้ ตัวน้าโย่งเองก็ประกาศขายบ้านที่ศรีราชา พร้อมเปิดมรสุมชีวิตน้านงค์โดนไล่จี้ น้าพวงแอบซุกเมียน้อยจนเมียไม่ให้เข้าบ้าน จนต้องไปนอนที่ปั๊ม ส่วนน้าโย่งแอบคบเด็กจริงหรือเปล่า โดยทั้งหมดนี้ 3 น้าจะมาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow 




ช่วงโควิดแบบนี้ได้รับผลกระทบไหม ?
น้านงค์ : จริงๆ มันกระทบทุกคน ตอนนี้เงินไม่มีถอนแล้ว



น้าพวง : ร้านก๋วยเตี๋ยวก็พอไปได้บ้าง

น้าโย่ง : ก็โพสต์ขายบ้านที่ศรีราชาเพราะเราไม่ได้ไปอยู่

น้านงค์เพิ่งเกิดเหตุการณ์ดื่มน้ำผิดไปดื่มสารเคมี ?
น้าโย่ง : มันตกใจ เราก็รีบไปโรงพยาบาล ตอนนั้นเขาก็ยังไม่รู้สึกตัว เราก็เลยโพสต์ว่าไอ้โหน่งกูไม่อนุญาตให้มึงเป็นแบบนี้นะ มึงตื่นขึ้นมาคุยกับกูเดี๋ยวนี้ ถามว่าร้องไห้ไหมอารมณ์มันบอกไม่ถูก อารมณ์มันแบบไอ้นงค์มึงอย่านะ น้ำหูน้ำตาอะไรมันก็ไม่รู้แหละ



น้าพวง : เราก็แบบไอ้นงค์มึงอย่าเป็นอะไรนะ

น้าโย่ง : ไอ้พวงก็มาขาบวมอีก

น้าพวง : ขาเดินไม่ได้ ห่วงเพื่อนก็ห่วง

น้านงค์ : ตอนนั้นหมอบอกไม่น่ารอด ก็เลยกลายเป็นหลอนๆ เวลากินน้ำทุกวันนี้ก็ยังเป็น เปิดกินน้ำที่ตู้เย็นก็ต้องคิดก่อนว่าใช่หรือเปล่า





เห็นว่า น้าโย่ง-น้าพวง ต้องกักตัวเพราะเจอ สมรักษ์ คำสิงห์ ?
น้าโย่ง : เห็นตอนตี 2 เราก็เฮ้ยเพิ่งถ่ายรายการด้วยกันเมื่อวาน ก็รีบหอบผ้าหอบผ่อนออกจากบ้าน ไปนอนที่ออฟฟิศ

น้าพวง : พอรู้ข่าว เราก็ตายแล้วอยู่ในห้องกับเมีย



สุขภาพใครน่าห่วงที่สุด ?
น้านงค์ : น้านงค์มีเบาหวาน น้าโย่งมีเก๊า น้าพวงมีทั้งเก๊าท์และเบาหวาน ก็เป็นห่วงน้าพวงที่สุด

อายุ 60 วิดีโอคอลกันตลอด ?
น้าโย่ง : เรารวมตัวกันไม่ได้เราก็มารวมตัวกันในโซเชียล

น้านงค์ : เราก็เล่นไม่เป็นหรอกพวกโซเชียล น้าโย่งเขาเก่ง เราก็ถามเขาเขาเป็นคนทำ ทำเพื่อให้โทรหากันได้

น้าโย่ง : คุยกันแต่งเพลงฉ่อย คุยเรื่องทำมาหากิน เราก็มีไลฟ์สดคุยกับแฟนๆ ด้วย

รู้จักกันมากี่ปีแล้ว ?
น้าโย่ง : รู้จักกันตั้งแต่อายุ 14-15 ปี

น้านงค์ : น้าพวงกับน้าโย่งเขารู้จักกันมาก่อนเพราะเล่นลิเกด้วยกัน น้าโย่งอยู่พิษณุโลก น้าพวงอยู่สุโขทัย ส่วนน้านงค์อยู่พิจิตร ทั้ง 3 คนเป็นลิเกหมดเลย

เห็นว่าแม่ยกเพียบ ?
น้าพวง : เราเป็นลิเกบ้านนอกตามต่างจังหวัด มันไม่เหมือนลิเกกรุงเทพฯ

น้านงค์ : อย่าเรียกว่าเป็นแม่ยกเรียกว่าเป็นพี่ อุปถัมภ์ แม่อุปถัมภ์ ก็พอมีเยอะเหมือนกัน ก็มีได้หลักแสน ตอนนั้นมีการแข่งขันพวงมาลัย

น้าโย่ง : เราเล่นเป็นตัวโจ๊ก สมัยก่อนเราผอม ครูบอกว่าจะเป็นตัวโกงก็ไม่น่ามีใครกลัว เสียงเราก็แบบนี้ ก็เลยได้เล่นเป็นตัวโจ๊ก

เล่นลิเกกี่ปี กว่าจะมาเป็นตลก ?
น้านงค์ : น่าจะ 20 กว่าปี



ใครเคยพกปืนไปเล่นลิเก ?
น้านงค์ : ก็เวลาไปเล่นลิเกที่ต่างจังหวัด สมัยก่อนมันน่ากลัวมาก ลิเกเคยโดนปล้น คือบางทีถ้าเราไปเล่นลิเกเรารับเงินจากเจ้าภาพมา ก็มีไอ้พวกที่ไม่หวังดีมันก็รอจ้องตอนขากลับ แต่เป็นปืนที่เล่นลิเกไม่ใช่ปืนจริง ก็จะมีมีดจริง-ดาบลิเกด้วย

เห็นว่าทั้ง 3 คนมีวีรกรรมเจ้าชู้ จริงไหมน้าพวงเมียไม่ให้เข้าบ้าน จนต้องไปนอนปั๊มน้ำมันแถวบ้าน ?
น้านงค์ : สมัยก่อนบ้านอยู่ใกล้กัน จะกลับบ้านเราเราก็ต้องผ่านวัด เราก็เห็นน้าพวงเดินสวนมา ถือหมอน เราก็ถามพวงไปไหน เขาก็บอกนอนไม่ได้ที่บ้านร้อนเป็นไฟจะไปนอนวัด

น้าพวง : ที่จริงมันก็จับไม่ได้ แต่คนอื่นไปพูด

จริงหรือไม่ มีเด็กพาไปเดินห้าง ซื้อเสื้อให้น้าโย่ง ?
น้าโย่ง : อันนั้นนานแล้ว ก็มีคนซื้อเสื้อให้ เราก็แขวนไว้ เมียเห็นก็เลยฉีกเสื้อทิ้ง เราก็บอกว่าเขาซื้อให้ไม่มีอะไร กับยายสมเป็นเพื่อนกันมาก่อน เห็นใครมาจีบเพื่อนเราก็ไม่ชอบ ไม่อยากให้ใครมาจีบเพื่อน พอเริ่มสนิทก็เริ่มชอบกัน เขาเป็นนางเอกพอเล่นฉากสลบ ตัวโจ๊กต้องไปช่วยไปอุ้มนางเอก เราก็รู้สึกว่าอุ่นดีเหมือนกัน เวลาไปโปรโมทลิเกเขาก็ตักกับข้าวเผื่อเรา ก็เริ่มมีความห่วงใยกัน พอได้เงินค่าตัวเราก็เอาเงินไปฝากเขา คือจีบไม่เป็น เวลาจะใช้เงินก็ไปขอเขา

เห็นว่าเคยซ่อนเงินเมีย ?
น้าโย่ง : เราเป็นคนชอบอ่านหนังสือ บางทีจำไม่ได้ว่าอ่านถึงหน้าไหน เราก็เลยเอาเงินคั่นไว้ แล้วเขาไปเจอ เป็นแบงค์พัน 2-3 ใบ คั่นน้อยเดี๋ยวหาไม่เจอ



มาเริ่มเพลงฉ่อยได้ยังไง ?
น้าโย่ง : เพลงฉ่อยเราเล่นในคาเฟ่มานานแล้ว เพลงฉ่อยเราก็เริ่มเล่นมาก่อนเล่นลิเก มันก็ติดตัวเรามานานแล้ว เราก็คิดว่า 3 คน เราจะมาเล่นกันยังไงดี ก็คิดว่าเอามุกตลกใส่เข้าไป เพราะ 3 คนก็แต่งกันได้อยู่แล้ว มีงานนึงเขาให้เรา 3 คนขึ้นไปโชว์จะร้องหรือทำอะไรก็ได้ เราก็เฮ้ยเราแต่งเพลงฉ่อยกันอยู่แล้ว เราก็เลยแต่งเพลงฉ่อยขึ้นไปร้อง ก็ได้รับการตอบรับที่ดี แล้วก็มีพี่คนที่รู้จักโทรมาบอกว่าจะเอาไปเข้าในรายการเราก็ดีใจมาก ที่เพลงฉ่อยของเราจะได้มีพื้นที่

กลัวไหมว่าจะไม่มีคนสืบสานเพลงฉ่อยต่อ ?
น้าโย่ง : อยากให้มีคนสานต่อไปเรื่อยๆ ทุกวันนี้แสงมันริบหรี่ลงแล้ว ถ้าไม่มีใครเอาเทียนไปจุดต่อ เทียนเล่มนี้มันก็จะดับลง

น้านงค์ : ถ้าเด็กรุ่นใหม่เขาอยากมาฝึก ประเด็นคือฝึกแล้วไปเล่นที่ไหน มันจะมีพื้นที่ให้เขาไหม ปัญหามันคือตรงนี้ ถ้ามาฝึกแล้วท้องแห้งเขาก็ไม่มีแรงร้อง แต่ตอนนี้ก็มีบ้างของแม่สมจิตร แม่ศรีนวล ศิลปินแห่งชาติ มีเด็กเข้ามาเรียนเยอะ

ตอนนี้อายุ 60 แล้ว วางแผนเกษียณงานในวงการบันเทิงอย่างไร ?
น้าโย่ง : อย่าพูดถึงเกษียณ ให้พูดถึงกำลังใจและคนดู ถ้าคนดูยังดูอยู่เราร้องไหว

น้าพวง : ก็เท่าที่เรายังมีกำลัง

น้านงค์ : ก็อยู่ที่กำลัง กับคนตอบรับ ถ้ายังมีเราก็ทำไปเรื่อยๆ หรือคนรุ่นใหม่ๆ อยากจะทำแบบเราก็ทำได้ เพราะเราอยากให้มีคนมาสืบทอด



รู้จักกันมา 50 ปีแล้ว เผยความในใจถึงกันหน่อย ?
น้าโย่ง : เราอยู่ด้วยกันมานานแล้วก็เป็นห่วงเรื่องสุขภาพ เราก็ถามกันตลอด

คลิปสัมภาษณ์ “น้าโย่ง - น้านงค์ - น้าพวง”