นายกฯ นั่งเรือท้องแบนมอบถุงยังชีพช่วยผู้ประสบอุทกภัย จ.ตรัง ตำหนิสนามบินไม่พัฒนาไร้นักท่องเที่ยว พร้อมแซว โฆษกรัฐบาลยิ่งพูดยิ่งโดนด่าเตรียมทบทวนบทบาทใหม่
เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นั่งเรือท้องแบนนำถุงยังชีพไปมอบให้ประชาชนตามบ้านเรือนผู้ประสบอุทกภัยบ้านคลองช้าง ต.นาตาล่วง อ.เมือง จ.ตรัง ที่ยังอยู่ในภาวะน้ำท่วมขังสูงถึง 3 เมตรนับสิบหลังคาเรือนโดยในวันนี้ปริมาณน้ำเริ่มลดลง เนื่องจากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติม แต่การสัญจรยังไม่สามารถใช้การได้ต้องใช้เรือ โดยนายกรัฐมนตรียังได้ติดตามความเป็นอยู่ของประชาชน ที่ส่วนใหญ่อพยพขึ้นมากางเต้นท์ชั่วคราวใช้ชีวิตอยู่บนถนนพร้อมมอบถุงยังชีพและให้กำลังใจแก่ผู้ประสบอุทกภัยส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและอยู่บ้านตามลำพัง
จากนั้นเดินทางไปที่วิทยาลัยสาธารณสุขสิรินธร จ.ตรัง มอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อ.กันตังจำนวน500 ชุด โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่และยืนยันว่ารัฐบาลทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อแก้ไขทุกปัญหา ทั้งปัญหาน้ำท่วม ปัญหาอาชีพ การทำกิน แต่ขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือด้วย การลงพื้นที่ครั้งนี้มาด้วยความจริงใจ นำรัฐมนตรีที่เกี่ยวของกับการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัย ปัญหาด้านการเกษตร ปัญหาถนนหนทาง มารับทราบปัญหาเพื่อดำเนินแก้ไขต่อไป พร้อมมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พิจารณาเยียวยาเกษตรกรที่ประสบอุทกภัยพืชผลการผลิตเสียหายด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า การลงพื้นที่วันนี้ได้เห็นทุกคนมีรอยยิ้ม แต่ในแววตาไม่มีความสุข ทำให้ตัวเองรู้สึกไม่มีความสุขไปด้วย แต่คนใต้เป็นคนเข้มแข็ง สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่9 รับสั่งเสมอว่าคนใต้เป็นคนเข้มแข็งโดยเฉพาะผู้หญิง ขยัน ซื่อสัตย์ และอดทน ทั้งนี้ยังอยากให้จ.ตรังเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยว จึงขอให้ประชาชนและหน่วยงานร่วมมือกันทำบ้านเมืองให้สะอาดน่าอยู่ พร้อมตำหนิท่าอากาศยานจังหวัดตรังที่ไม่มีการปรับปรุงพัฒนาทำให้ไม่มีใครอยากมาเที่ยว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จ.ตรังวันนี้นายกรัฐมนตรีค่อนข้างอารมณ์ดี มีการพูดคุยหยอกล้อกับประชาชน จนประชาชนเรียกร้องให้พูดต่อไปนานๆ ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าให้รอติดตามต่อในรายการคืนวันศุกร์นี้ พร้อมแซว พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยแนะนำให้ประชาชนรู้จักว่า โฆษกไก่อู ขันคูทุกวันโดนด่าทุกวัน ยิ่งพูดยิ่งโดน วันนี้ต้องมาทบทวนกันใหม่แล้วว่าเราจะทำงานกันอย่างไรต่อไป