“จุติ”ลั่นนักพัฒนาสังคมทุจริตเงินราชการไม่มีซูเอี๋ย สาวถึงใครไม่ไว้หน้าเด็ดขาด
เมื่อวันที่ 20 ก.ย. นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) พร้อมด้วย นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) แถลงข่าวความคืบหน้ากรณีนักพัฒนาสังคมทุจริตเงินราชการ ว่า ยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้ และตนซึ่งเป็นรัฐมนตรีจะไม่ไว้หน้าผู้ทุจริตไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองหรือเป็นข้าราชการระดับไหน รัฐบาลยืนยันชัดเจนว่าปราบทุจริต ฉะนั้นเรื่องของการทุจริตที่เกิดขึ้นนั้นต้องขอขอบคุณปลัด พม. ที่ทำงานเชิงรุก สามารถระงับความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ และวันนี้ผู้ที่กระทำความผิดได้ให้ออกจากราชการไว้ก่อน โดยจะมีการอายัดทรัพย์ ซึ่งตนได้ให้นโยบายไว้ว่าให้รื้อระบบที่ผ่านมาทั้งหมดของทุกกรมในสังกัด พม. ไม่ใช่เฉพาะกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พม.) และจะสลับตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับระบบนี้ เปลี่ยนทีมสลับกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับประชาชนด้ว
“ในส่วนของจำนวนเงินที่ทุจริตนั้น ในเบื้องต้นจากที่รับทราบมีประมาณ 10 กว่าล้านบาท ที่มีการทุจริตไป ฉะนั้นเมื่อการสอบสวนยังไม่สิ้นสุดและยังไม่ครอบคลุมทุกส่วน การที่มารายงานว่าจำนวนตัวเลขเท่าไหร่จะเป็นการพูดไม่ตรงกับข้อเท็จจริง จึงขอให้ทำการสอบสวนให้เสร็จเรียบร้อยก่อน ขณะนี้ขอให้มีการเร่งสอบสวนทุกอย่างว่าสรุปแล้วยอดเสียหายเท่าไร โดยงบประมาณนี้เป็นงบประมาณที่ไม่เกี่ยวข้องกับงบของประชาชน แต่จะเป็นเงินส่วนไหน ทาง พม. หนีจากความรับผิดชอบไม่พ้น และในวันนี้ได้เรียนปลัด พม. ไปแล้วว่าผลการสอบสวนจะเป็นใคร จะไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้น”นายจุติ กล่าว
นายจุติ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้ไปอายัดทรัพย์ของคนทุจริตไว้เรียบร้อยแล้ว เชื่อว่าจะได้คืนมาบางส่วน ถ้าได้ไม่หมดก็ต้องไปขอให้ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ไปดูเส้นทางการเงิน ถ้าเจอเส้นทาง ก็จะรู้ว่าเงินไปอยู่ที่ไหนบ้าง ส่วนวันนี้จะได้เงินคืนมาครบหรือไม่ เรายังไม่ทราบได้ ตนก็ได้ตั้งข้อสงสัยว่าทำได้คนเดียวจริงหรือไม่ ซึ่งจะต้องรอผลสอบสวนก่อน ยังไม่กล้าประกาศก่อนว่าเป็นอย่างไร ขอให้ฟังผลสอบสวน ไม่นานเราก็จะทราบ โดยระยะเวลาการดำเนินการตนอยากให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ จะไม่มีการปกปิดหรือยื้ออะไรทั้งสิ้น ตนอยากให้เรื่องนี้จบโดยเร็วที่สุด ส่วนในเรื่องของการป้องกันการทุจริต ขณะนี้ได้สั่งการไปว่าต้องเอาทุกหน่วยงาน ทุกกรม จะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดก็ตาม จะให้ฝ่าย IT เข้าไปช่วยตรวจสอบ และต้องรื้อระบบใหม่ทั้งหมด และเปลี่ยนรหัสผ่านใหม่ทั้งหมด เปลี่ยนขั้นตอนและบุคลากรใหม่ แต่ถ้าระบบดีอยู่แล้ว แต่คนเป็นผู้ทุจริตก็ต้องเปลี่ยนที่คน เราต้องไปตรวจสอบว่าส่วนไหนเป็นจุดอ่อน ในส่วนของผู้ทุจริตนั้นที่ตนได้รับรายงานมาว่าเขาเป็นผู้มีรหัสผ่าน ซึ่งตนขอให้เขาตรวจสอบแล้ว เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามหากเกิดความเสียหาย ใครก็ตามที่ต้องรับผิดชอบก็ต้องมีส่วนในการชดเชย อยากให้ทุกคนมั่นใจว่าเรื่องนี้ไม่มีซูเอี๋ย ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้กำชับมาว่าอย่าให้มีการทุจริตเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด
ด้านนางพัชรี กล่าวว่า เงินจำนวนนี้ไม่ใช่เงินเยียวยา ทุกคนจะคิดว่าเป็นเงินของคนพิการถูกยักยอก ซึ่งเป็นการเข้าใจผิด ทำให้คนพิการเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเงินเบี้ยความพิการที่เป็นเบี้ยของเขา เงินที่จะไปช่วยเหลือเขาจะไม่ได้ ซึ่งไม่ใช่ความจริง โดยเงินส่วนนี้เป็นเงินนอกงบประมาณ เป็นเงินที่ไม่เกี่ยวข้องกับคนพิการ เพราะเป็นเงินประกันสัญญาเวลาที่คนมาทำงานร่วมกับกระทรวง โดยเขาจะเอาเงินมาสร้างหลักประกันไว้ก่อน และเขาจะสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จตามที่ได้ตกลงกันเอาไว้ เพื่อป้องกันการหลบหนีและการทิ้งงาน