"อนุทิน"คาดฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 ได้ก่อน ต.ค. ส่งวัคซีนฉีดพื้นที่ภูเก็ตเพิ่ม สำหรับภูเก็ตแม้พบติดเชื้อโควิดเพิ่มแต่ไม่กระทบ
เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่ รพ. ปิยะเวท กทม. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เป็นประธานพิธีมอบใบประกาศขอบคุณผู้บริจาค 11 ราย ในการสร้าง รพ.สนามปิยะเวทไอซียู 120 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด 19 อาการรุนแรง เช่น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), เครือเจริญโภคภัณฑ์, เจริญโภคภัณฑ์อาหาร, มูลนิธิบีเจซี, MBK, ไมเนอร์ฟู้ดส์ และกสิกรไทย เป็นต้น โดยมี พญ.เจรียง จันทรกมล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เครือ รพ.บางปะกอกและ รพ.ปิยะเวทเข้าร่วม
นายอนุทินกล่าวว่า รพ.สนามปิยะเวทไอซียูเป็น รพ.สนามระดับสูง มีความพร้อมทุกด้าน ทั้งการแพทย์ ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ ระบบช่วยชีวิต ระบบความปลอดภัยไม่ให้บุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อ เป็นมาตรฐานที่สากลยอมรับ ทั้งนี้ ภาคเอกชนมีส่วนร่วมอย่างมากทั้งการดูแลรักษาและการควบคุมโรคโควิด 19 เช่น การฉีดวัคซีน ที่ขณะนี้ทั่วประเทศฉีดไปแล้วกว่า 40 ล้านโดส จากศักยภาพการฉีดวัคซีนแต่ละวันเชื่อว่าภายในสิ้นปี 2564 จะฉีดวัคซีนได้มากกว่า 100 ล้านโดส ส่วนปี 2565 รัฐบาลได้เจรจาจัดหาวัคซีนเพื่อฉีดเป็นเข็มกระตุ้น ซึ่งการบริหารจัดการจะง่ายขึ้น เนื่องจากฉีดเพียงเข็มเดียว
นายอนุทินกล่าวต่อว่า สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม ตั้งแต่มี.ค.-พ.ค. 2564 ประมาณ 3 ล้านคน จะฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ด้วยแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรด่านหน้าที่ได้รับเข็ม 3 ไปแล้ว คาดว่าจะเหลือประมาณ 2 ล้านกว่าคน กรมควบคุมโรคกำลังเร่งวางแผนการฉีด โดยพิจารณาทั้งพื้นที่และกลุ่มเสี่ยง คาดว่าจะเริ่มได้ก่อนเดือน ต.ค. ซึ่งเร็วกว่าที่กำหนดไว้ ส่วนยาฟาวิพิราเวียร์มีเพียงพอ กำลังจะส่งไปสำรองไว้ที่จังหวัด จังหวัดละ 5 หมื่น - 1 แสนเม็ด ตามขนาดของจังหวัด เพื่อไม่ให้มีปัญหาการเบิกจ่าย
"สำหรับวัคซีนไฟเซอร์ที่จะฉีดในเด็กอายุ 12-18 ปี ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการวัคซีน รวมถึงการตรวจสอบของ อย.ไทยแล้ว จึงจัดหามาฉีดให้เด็กเพื่อให้กลับไปเรียน ใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด ส่วนวัคซีนอื่นๆ เช่น ซิโนแวค ที่จะฉีดได้ตั้งแต่อายุ 3 ปี ยังไม่ได้มาขึ้นทะเบียนเพิ่มเติม ขณะที่ซิโนฟาร์ม อยู่ระหว่างอย.พิจารณาและขอเอกสารเพิ่มเติม” นายอนุทิน กล่าว
ส่วนกรณีภูเก็ตแซนบ็อกซ์ที่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีรายงานการติดเชื้อในจังหวัดเพิ่มขึ้นนั้น จะส่งวัคซีนไปเพิ่มเติม รวมถึงจังหวัดใกล้เคียงด้วย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้น สถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้คาดการณ์และเตรียมการรองรับไว้แล้ว ยืนยันระบบสาธารณสุขในพื้นที่ ตั้งแต่ระดับตำบล อำเภอ จังหวัด รวมถึงกลุ่มจังหวัดในเขตสุขภาพ มีความพร้อม จึงไม่กระทบกับการเปิดประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ดำเนินการอย่างรอบคอบ ให้ทั้งประเทศมีความปลอดภัย