"สาธิต" ชี้ปรับ ครม.เป็นอำนาจนายกฯ ยันทำงานเข้าขา "อนุทิน" เผย 2 ปีขับเคลื่อนงาน สธ.ดีอยู่แล้ว
เมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข กล่าวถึงกระแสปรับ ครม.ว่า การปรับ ครม. เป็นอำนาจของท่านนายกรัฐมนตรี ซึ่งท่านน่าจะมีการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล แต่ฟังจากที่ท่านให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ก็ไม่ได้มีแนวคิดว่าจะปรับ ครม. อย่างไรก็ตามส่วนตัว คิดว่าตนเองทำงานกับกระทรวงนี้มา 2 ปี มีการเรียนรู้และทำงานอย่างเต็มที่ หากมีการเปลี่ยนแปลงเปลี่ยนกระทรวงก็ต้องไปเรียนรู้งานใหม่ แต่ประสิทธิภาพในเชิงการทำงาน ในเชิงนโยบายของกระทรวง นั้นคิดว่าตนสามารถขับเคลื่อน ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขได้ดีอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามอำนาจปรับ ครม.นั้นเป็นอำนาจของท่านนายกรัฐมนตรี และพรรคร่วมที่จะหารือร่วมกัน
"ผมยังอยากทำงานที่กระทรวงสาธารณสุข อยากรับผิดชอบงานที่กระทรวงนี้ ก็ได้เรียนหารือกับท่านรองนายกรัฐมนตรีนายอนุทิน ชาญวีรกูล ก็ถือว่าเราทำงานเข้าขากันได้ดีมาก มอบหมายงานอะไรมาผมก็ทำหน้าที่ อย่างเต็มที่" นายสาธิต กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีเสถียรภาพของรัฐบาลสั่นคลอนเนื่องจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ลาออก นายสาธิต กล่าวว่า ปฏิเสธไม่ได้แต่ว่าการเมืองก็เป็นแบบนี้ การเมืองจะอยู่ได้ถ้าพี่น้องประชาชนสนับสนุน ส่วนเรื่องสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละพรรคก็การบริหารพรรคการเมืองภายในของเขาเอง ที่จะต้องจัดการ อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมั่นใจว่ารัฐบาลยังมีเสียงสนับสนุน พอที่จะผ่านกฎหมายสำคัญๆ และสามารถเดินหน้าแก้ไขปัญหาสถานการณ์หลัก คือเรื่องการระบาดของโรคโควิด 19 และปัญหาอีกหลายๆ เรื่องได้ ทั้งนี้ ในระบอบการปกครองประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ฝ่ายบริหารก็ต้องยึดโยงเสียงในสภา เสียงในสภาก็เป็นเสาหลักค้ำยันการอยู่ได้ของผู้บริหาร เป็นเรื่องที่รัฐบาลพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องคุยกัน คิดว่ายังสามารถเดินหน้าทำงานต่อไปได้
นายสาธิต กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการยุบสภานั้นเป็นเรื่องปกติทางการเมือง หากควบคุมเสียงในสภาไม่ได้ก็สามารถยุบสภา นี่คือกลไกในระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยอยู่แล้ว ถ้ามีถ้าสมมติมีปัญหาในสภาท่านนายกฯ ก็มีสิทธิ์ที่จะโยนความคิดเห็นทั้งหมดกลับไปให้ประชาชนตัดสินใจ ถ้าประชาชนตัดสินใจตัวเลขสมการเสียงพรรคนั้นพรรคนี้ เท่าไหร่ยังไงก็ไปว่ากัน แต่ก็จะมีเงื่อนไขเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่อยู่ในกระบวนการรอให้ครบ 15 วัน เพื่อนำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯ ในระหว่างนี้ถ้ามีคนไปยื่นถึงความไม่ชอบในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กฎหมายรัฐธรรมนูญก็ระบุชัดเจนว่าศาลรัฐธรรมนูญจะต้องดำเนินการแก้ไขภายใน 30 วัน ก็มีกระบวนการตรงนี้อยู่ ระหว่างนี้หากมีอะไรเกิดขึ้นก็ต้องใช้กติกาเดิม ซึ่งเป็นข้อกฎหมายที่กำหนดเอาไว้ในรัฐธรรมนูญ