แม่ลั่นไม่ยกโทษให้ลูกทรพีข่มขืน

2021-09-12 20:01:48

แม่ลั่นไม่ยกโทษให้ลูกทรพีข่มขืน

Advertisement

แม่ลั่นไม่ยกโทษให้ลูกทรพีข่มขืน เผยก่อนหน้านี้ทำร้ายพ่อปางตาย

จากกรณีลูกชายอายุ 35 ปีลงมือข่มขืนแม่อายุ 55 ปี หลังเกิดเหตุทำทีไม่รู้เรื่อง ก่อนแม่จะแจ้งตำรวจเข้าจับกุมที่บ้านพัก ฝ่ายแม่เปิดใจไม่ให้อภัยเด็ดขาดยอมรับเสียใจที่สุด ลูกที่ตัวเองตั้งท้องมา 9เดือนมาทำแบบนี้กับแม่ พร้อมกับเผยก่อนหน้านี้ทำร้ายพ่ออาการปางตาย

เมื่อวันที่ 11 ก.ย. พ.ต.ท.สนธศักดิ์ สร้อยผาบ รอง ผกก.สอบสวน พ.ต.ท.ไพบูรณ์ สุวรรณคุณ สว.สอบสวน สภ.ดงหลวง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดงหลวง อ.เมืองมุกดาหาร นำตัวนายเอ (นามสมมติ) อายุ 35 ปี ที่ก่อเหตุข่มขืนแม่ของตนเอง มาที่บ้านพักใน ต.พังแดง อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ซึ่งเป็นบ้านที่เกิดเหตุเพื่อชี้จุดเกิดตามคำกล่าวอ้างของผู้เป็นแม่ว่า ถูกลูกชายข่มขืนโดยนายเอ  ได้พาเจ้าหน้าที่ขึ้นไปบนบ้านชั้น 2 เพื่อไปที่บริเวณนอนก่อนช่วงเวลาประมาณ ตี 3 ผู้ก่อเหตุจะลงมาเข้าห้องน้ำแล้วอ้างว่า หลังจากนั้นจำอะไรไม่ได้เลย และผู้ต้องหายังคงยืนยันว่าไม่ได้เข้าไปที่ห้องแม่พร้อมกับบอกว่าไม่ได้ก่อเหตุซึ่งไม่เป็นไปตามที่มีกล่าวหา โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่พานายเอชี้จุดเกิดเหตุ ก็มีพี่ชายมาดูห่างก่อนจะสบโอกาส เข้าไปต่อยน้องชายที่ก่อเหตุข่มขืนแม่ที่หลังอย่างจัง จนเจ้าหน้าที่ได้เข้ามานำตัวออกไป ซึ่งจากนั้น เจ้าที่ได้นำตัวผู้ก่อเหตุไปเก็บหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ ที่ สภ.ดงหลวง

ด้านนางบี (นามสมมติ) อายุ 55 ปี เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ลูกของตนเองนั้นได้เข้ามาขืนใจภายในห้องนอนที่อยู่ชั้นล่างในช่วงเวลาประมาณตี 3 ของวันที่ 11 ก.ย.  ซึ่งระว่างนั้นตนเองสังเกตว่าไฟที่เปิดไว้ด้านล่างถูกปิดที่ละดวงก่อนจะมีคนเดินเข้ามาถอดเสื้อผ้าทั้งหมดพร้อมกับเอามือมากดตรงไหล่ขวา แล้วใช้มือถอดผ้าถุง พร้อมกับกางเกงออกแล้วทำการข่มขืนจนสำเร็จ ซึ่งวันนั้นตนเป็นประจำเดือนด้วย  ต่อมาคนที่ทำกับตนเองได้วิ่งไปที่ห้องน้ำพร้อมกับอาบน้ำ ตนเลยลุกจากที่นอนไปนั่งรอที่หน้าห้องน้ำ และคนที่ออกมาจากห้องน้ำก็คือนายเอลูกชายของตน แล้วลูกชายก็ขึ้นไปด้านบน เพื่อนอนต่อโดยไม่ได้มีอาการตกใจหรือเกรงกลัว ตนจึงถามไปว่าทำไมมาทำกับแม่แบบนี้ ก่อนที่จะโทรบอกพี่ชายของนายเอว่า ถูกนายเอข่มขืนจนพี่ชายกลับมาจากสวนยางพาราแล้วได้มีการทะเลาะวิวาทกันระหว่างพี่กับน้อง ระหว่างนั้นทางผู้ใหญ่บ้านได้แจ้งตำรวจเข้าระงับเหตุแล้วนำตัวนายเอไปที่โรงพัก ซึ่งการกระทำแบบนี้ตนเองไม่ยอมให้อภัยเด็ดขาดแม้จะเป็นลูกก็ตาม

ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำหลักฐานการตรวจร่างกาย พร้อมกับหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ไปประกอบกับการสอบสวนพร้อมกับควบคุมตัว นายเอซึ่งขณะนี้ผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธ แต่ถ้าผลการตรวจออกมาครบแล้วก็จะการนำหลักฐานมาพิจารณาที่จะแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป