"อนุทิน"ห่วงคนไทยฆ่าตัวตายพุ่ง มอบกรมสุขภาพจิตดูแลเชิงรุก ยอมรับเป็นงานหนักขอ ปชช.อดทน เชื่อมั่นสถานการณ์โควิดจะดีขึ้น
เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์การฆ่าตัวตายในประเทศไทยที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด -19 ว่า เรื่องนี้ตนได้มีการมอบหมายให้กรมสุขภาพจิต เน้นการแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ เพราะมีปัจจัยเร้าเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 และมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโรค ซึ่งต้นเดือนหน้า (ต.ค.) จะมีการเปลี่ยนแปลงอธิบดีกรมสุขภาพจิตคนใหม่แทนอธิบดีฯ ท่านเดิมที่เกษียณอายุราชการ ตนก็ได้เชิญว่าที่อธิบดีฯ เข้ามาคุยและมอบเป็นนโยบายให้เน้นการแก้ปัญหาการฆ่าตัวตายเป็นนโยบายสำคัญที่สุดเพราะดูจากตัวเลขแล้วต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน และมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่เฝ้าระวัง แต่ต้องเข้าไปทำงานเชิงรุก
นายอนุทิน กล่าวว่า ตอนนี้เรามีทีมสุขภาพจิตเคลื่อนที่เร็ว MCATT เข้าไปถึงชุมชน ก็ได้คุยกับท่านอธิบดีกรมสุขภาพจิตคนใหม่ให้ใช้บุคลากรที่มีอยู่ทั่วประเทศอย่างเต็มที่ และมีการวางแผนสนับสนุนงบสำหรับดูแลสุขภาพจิตเพิ่มมากขึ้น มุ่งให้กำลังใจ สร้างความเข้าใจเรื่องการรักษาที่มีคุณภาพ ทั้งยา เวชภัณฑ์ อุปกรณ์ และบุคลากร ถือว่าเป็นการบ้านหนักสำหรับบุคลากรด้านสุขภาพจิต ก็เป็นงานที่ที่พิสูจน์ฝีมือคนที่จะมาบริหารงานต่อเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพี่น้องประชาชนนั้นขอให้อดทน สถานการณ์น่าจะดีขึ้น เพราะขณะนี้บุคลากรสาธารณสุขทำงานควบคุมป้องกันโรคอย่างเต็มที่ เร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคให้ประชาชนให้ครอบคลุมมากที่สุด เชื่อว่าประชาชนเข้าใจแล้วว่าวัคซีนลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ แต่มีผลมากในการป้องกันอาการหนักและเสียชีวิตได้ เมื่อฉีดวัคซีนแล้ว ก็ขอให้ร่วมกันทำควบคู่กับการป้องกันตัวเองเต็มที่ ทั้งสวมหน้ากากอนามัย เว้นระห่าง ล้างมือ ในส่วนของกระทรวงพยายามหาวิธีทำให้สภาพความเป็นปกติกลับมาให้เร็วที่สุด ถ้ามีปัญหาก็อาจจะเป็นเพียงกลุ่มน้อย ไม่เกินศักยภาพระบบสาธารณสุข เป็นเรื่องที่สามารถรับมือได้