"สุชาติ"ชี้ "รัฐบาลประยุทธ์" ขาลงไม่ยุบสภาก็ต้องลาออก โอกาสกลับมาเป็นนายกฯยาก
เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ศ.ร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีต รมว.คลัง และอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า 1) การอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ผ่านไปแล้ว โดยนายกรัฐมนตรี ไหวตัวทัน สามารถพลิกเสียงโหวตได้หวุดหวิด ทำให้ได้รับคะแนน+ไว้วางใจ และอยู่ต่อไปได้ แต่ก็ได้ปลดรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐออกถึง 2 คน ที่แสดงอาการจะไม่โหวตให้ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จึงเป็นช่วงขาลงแล้ว อำนาจและบารมีลดลงอย่างมาก 2) ความจริงได้มีสัญญาณมากว่า 1 ปีแล้วว่า ผู้มีอำนาจปกครองประเทศ ในทุกระดับ ไม่พึงพอใจ ในผลงานของพลเอกประยุทธ์ อันเนื่องมาจากตัดสินใจผิดอยู่เสมอ ใช้ท่าทีที่แข็งกร้าว ไม่สุภาพ ไม่เป็นมิตรกับประชาชน ไม่มีความน่าเชื่อถือ ทำให้การลงทุนหดหายไปหมด แม้จากนักลงทุนในประเทศเอง ระบบเศรษฐกิจจึงไม่เจริญเติบโต ทำให้ประชาชนไทยเดือดร้อน ยากจนมาก เด็กๆ คนรุ่นใหม่ มองไม่เห็นอนาคตของตัวเอง จึงประท้วงเรียกร้องให้เปลี่ยนนายกรัฐมนตรี ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มี สิทธิเสรีภาพ มีความเป็นธรรม ซึ่งปัจจุบันไม่มี ทั้งนี้เพื่อให้ประเทศชาติมีอนาคต แต่รัฐบาลก็ให้ตำรวจเอาปืนกระสุนยาง เอาแก๊สน้ำตา มายิงใส่ประชาชน จนแทบไม่มีใครชื่นชอบรัฐบาลเลย
3) เมื่อมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 นายกรัฐมนตรี ก็ตัดสินใจผิดหลายครั้งหลายหน อย่างไม่น่าเชื่อ เช่น ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด ในระลอกที่ 4 ได้สั่งปิดไซต์งานก่อสร้าง ให้แรงงานเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัด ก่อนที่จะมีการตรวจหาเชื้อและฉีดวัคซีน ทำให้เชื้อกระจายไปทั่วประเทศ มีผู้ป่วยสะสมกว่า 1.3 ล้านคน ผู้เสียชีวิตกว่า 13,500 คน วัคซีนก็ซื้อมาในราคาแพงมาก แต่ประสิทธิภาพต่ำ มีไม่เพียงพอ เครื่องตรวจหาเชื้อ ATK ก็มีไม่พอ จึงมีคนล้มตายจำนวนมาก การจัดซื้อวัคซีนในราคาแพง เหมือนมีการทุจริต คนไทยทั่วประเทศ และผู้ปกครองทุกระดับจึงต้องการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี
4) ความจริงมีการส่งสัญญาณจากผู้ใหญ่ระดับสูงๆ ให้นายกรัฐมนตรีลาออกหลายครั้ง แต่ก็มีการบ่ายเบี่ยงไม่รับรู้ จึงเป็นเหตุให้มีหน่วยกล้าตาย ในพรรคพลังประชารัฐพยายามส่งเสียง แต่กลุ่ม 3 ป. ก็ไม่รับสัญญาณ ดิ้นรนจนสามารถเปลี่ยนเสียงโหวตให้ไว้วางใจได้
5) ถึงวันนี้ ทางเลือกของนายกรัฐมนตรีคงต้องยุบสภา หรือไม่ก็ลาออก เพราะเหตุการณ์โกลาหลในการลงมติครั้งนี้ น่าจะส่งสัญญาณให้พล.อ.ประยุทธ์ได้คิด จึงเริ่มปล่อยอำนาจ เช่น ยุบ ศบค. ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ควบคุมการโควิด-19 แต่แท้จริงคือควบคุมประชาชน โดยจะให้หน่วยงานตามกฎหมายเข้ามาดูแล และคงต้องปล่อยอำนาจอีกหลายๆ เรื่อง ทางเดียวที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปได้อีกระยะหนึ่ง ก็คือการยุบสภา ไม่เช่นนั้น ผู้มีอำนาจมากกว่า ก็อาจบอกให้ลาออก เพราะเสียหายมามากมายแล้ว หากอุ้มกันต่อไป คงแย่ไปด้วยกันแน่ๆ
6) เรื่องที่คิดว่าจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัยหนึ่ง คงหมดโอกาสแล้ว เนื่องจากทำตัวเป็นเจ้านายประชาชน ไม่ใช่ผู้รับใช้ประชาชน จึงไม่มีประชาชนอุ้มชู วันนี้หมดสมัยแล้วที่รัฐบาลจะไม่รับใช้ประชาชน