ทม.หัวหินเฮ กรมป้องกันฯมอบรถดับเพลิงอาคารสูงมูลค่า 167 ล้านไว้ใช้งาน
เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ที่ห้องประชุมสำนักงานเทศบาลเมืองหัวหิน นายพัลลภ สิงหเสนี ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะ ผอ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การใช้เครื่องจักรกลสาธารณภัย (อัคคีภัย) ระหว่าง เทศบาลเมืองหัวหิน โดย นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน กับ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดย นายอุดม เพชรคุต ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เขต 4 ประจวบฯ ร่วมลงนามในการใช้ประโยชน์เพื่อป้องกันและระงับอัคคีภัยในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองหัวหินและพื้นที่ข้างเคียง มี คณะผู้บริหารเทศบาลเมืองหัวหิน ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน สท. หัวหน้าส่วนราชการ ร่วมเป็นสักขีพยาน พร้อมส่งมอบรถดับเพลิงชนิดหอน้ำขนาดความสูงไม่น้อยกว่า 90 เมตร มูลค่า 167 ล้านบาท จำนวน 1 คันให้กับเทศบาลเมืองหัวหินไว้ใช้ในการระงับอัคคีภัย พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯได้มอบประกาศเกียรติคุณ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ด้านการจัดการสาธารณภัยดีเด่น ประจำปี 2564 ให้กับ “เทศบาลเมืองหัวหิน” ที่ได้รับการคัดเลือกจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จากนั้นได้มีการสาธิตการใช้รถดับเพลิงชนิดหอน้ำที่บริเวณสวนสาธารณะ 19 ไร่ ด้วย
นายนพพร กล่าวว่าการลงนามในบันทึกข้อตกลงดังกล่าว เกิดจากแนวคิดความเสี่ยงสาธารณภัยในการกระจายเครื่องจักรสาธารณภัยที่เหมาะสมไปยังพื้นที่เสี่ยงสาธารณภัยหรือที่พื้นที่ที่มีความล่อแหลมต่ออันตรายจากภัยพิบัติที่อาจส่งผลความสูญเสียจำนวนมหาศาล โดยพื้นที่เทศบาลเมืองหัวหินจัดอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ออัคคีภัยในเขตชุมชนที่มีอาคารสูงซึ่งรถดับเพลิงขนาดเล็กมีขีดความสามารถไม่เพียงพอ การลงนามฯบันทึกข้อตกลงมีผลผูกพันตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 64 - 30 กันยายน 65 โดยมีเป้าหมายเน้นการมุ่งบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่มีศักยภาพและเจ้าหน้าที่มีความพร้อมในการปฏิบัติงานและมีขีดความสามารถในการเก็บรักษาทรัพย์สินของทางราชการ รวมถึงเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงในการเผชิญสาธารณภัยรูปแบบต่างๆที่จำเป็นต้องใช้เครื่องจักรกลสาธารณภัยที่มีสมรรถนะสูงเข้าจัดการสถานการณ์เร่งด่วนในพื้นที่ ส่งผลให้การบรรเทาภัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า และเข้าถึงที่เกิดเหตุได้ทันท่วงทีเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทั้งนี้เทศบาลเมืองหัวหินได้จัดส่งเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 5 นาย เดินทางไปฝึกอบรมการใช้งานและบำรุงรักษารถดับเพลิงชนิดหอน้ำขนาดความสูงไม่น้อยกว่า 90 เมตร ณ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 4 เรียบร้อยแล้ว แต่อย่างไรก็ตามศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 4 มีกำหนดจัดเจ้าหน้าที่ไปตรวจซ่อมบำรุงรักษาเบื้องต้นตามวงรอบการดูแลเครื่องจักรกลหรือเมื่อได้รับแจ้งความผิดปกติของเครื่องจักรกลสาธารณภัยดังกล่าว
นายอุดม กล่าวว่า อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้มีนโนบายบูรณาการเครื่องจักรกลสาธารณภัยระหว่างกรมฯ กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีศักยภาพและมีหน้าที่ในเรื่องของการบรรเทาสาธารณภัยในเรื่องการทำ MOU ร่วมกันกับทางเทศบาลเมืองหัวหิน เป็นการบูรณาการรถดับเพลิงอาคารสูงไม่ต่ำกว่า 90 เมตร เพื่อการเผชิญเหตุในการดับเพลิงอาคารสูง ซึ่งเมื่อประเมินพื้นที่แล้วเทศบาลเมืองหัวหินมีอาคารสูงเกินกว่า 20 ชั้น จำนวน 22 แห่ง และนอกจากนั้นยังมีอาคารที่เป็นแหล่งที่พักอาศัยที่เป็นอาคารสูงทั้งในเขตเทศบาลเมืองหัวหินและชะอำ เหตุที่จำเป็นต้องนำมาเพราะว่าการจอดไว้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 4 ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.สามร้อยยอด ถ้ามีเหตุเกิดขึ้นที่หัวหินกว่าจะเคลื่อนที่มาถึงที่นี่ใช้เวลาไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นการที่มาจอดที่นี่ เป็นการทำ MOU ร่วมกันเพื่อการนำเครื่องจักรมารองรับกรณีเกิดภัยขึ้นในพื้นที่เพื่อให้การเผชิญเหตุที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อย่างน้อยที่สุดเมื่อเกิดเหตุเราก็สามารถเผชิญเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถออกไปปฏิบัติงานได้อย่างทันท่วงที
นายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน กล่าวว่าเทศบาลเมืองหัวหินได้รับเกียรติจากผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ผอ.ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 4 ซึ่งเป็นตัวแทนของอธิบดีกรมป้องกันฯ และนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน ในการทำบันทึกข้อตกลงในการนำรถดับเพลิงชนิดหอน้ำขนาดความสูงไม่น้อยกว่า 90 เมตร มาให้เทศบาลเมืองหัวหินได้ทดลองใช้ เนื่องจากหัวหินมีอาคารสูงจำนวนมาก ทางกรมป้องกันภัยเล็งเห็นว่าถ้าจอดไว้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 4 อาจจะไม่ทันเหตุการณ์ เลยทำข้อตกลงร่วมกับเทศบาลเมืองหัวหิน ถ้าเกิดเหตุสามารถนำรถดับเพลิงไปใช้งานได้เลย ถือว่าเป็นโอกาสดีที่หัวหินจะมีอุปกรณ์ช่วยเหลือที่ทันสมัยหากเกิดเหตุเพลิงไหม้ในอาคารสูง ต้องขอบคุณกรมป้องกันภัยที่เล็งเห็นความสำคัญในเรื่องนี้