โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ประกาศให้การรับรองเยรูซาเลม เป็นเมืองหลวงของอิสราเอลแล้ว พร้อมสั่งเตรียมย้ายสถานทูตสหรัฐออกจากเทลอาวีฟ ไปยังเยรูซาเลม ท่ามกลางเสียงคัดค้านอย่างหนัก
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ประกาศว่า ขณะนี้ สหรัฐให้การรับรองเยรูซาเลม เป็นเมืองหลวงของอิสราเอล ฉีกนโยบายอย่างเป็นทางการของสหรัฐที่ยึดถือกันมาหลายสิบปี โดยทรัมป์ ระบุว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าว เป็นขั้นตอนที่คอยมานานแล้ว เพื่อทำให้เกิดความก้าวหน้าของกระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลาง สหรัฐจะสนับสนุนการแก้ปัญหา 2 รัฐ หากทั้งอิสราเอลและปาเลสไตน์ ตกลงกันได้
ทรัมป์ ซึ่งกล่าวที่ทำเนียบขาว เมื่อวานนี้ (พุธ) บอกว่า เขาตัดสินการกระทำนี้เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของสหรัฐอเมริกาและการแสวงหาสันติภาพระหว่างอิสราเอลกับชาวปาเลสไตน์ เขาได้สั่งให้กระทรวงต่างประเทศเริ่มเตรียมการย้ายสถานทูตสหรัฐจากเทลอาวีฟไปยังเยรูซาเลมแล้ว
ด้านนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ออกมาขานรับ กล่าวว่า ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ และอิสราเอลรู้สึกขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อประธานาธิบดีทรัมป์ ขณะที่ ประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส ผู้นำปาเลสไตน์ ตอบโต้การตัดสินใจดังกล่าวของทรัมป์ โดยบอกว่า สหรัฐอาจไม่ได้เป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยสันติภาพอีกต่อไป เขาเคยเตือนก่อนหน้านี้ผ่านทางโฆษกแล้วว่า จะเกิดผลลัพธ์ที่อันตราย
กรุงเยรูซาเลม ถือเป็นที่ตั้งของศาสนสถานสำคัญของ 3 ศาสนา โดยพื้นที่เยรูซาเลมตะวันออก ซึ่งเป็นที่ตั้งของโอลด์ ซิตี้ หรือเขตเมืองเก่า ถูกอิสราเอลควบรวมหลังสงคราม 6 วัน ในปีพ.ศ.2510 แต่ก็ไม่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติว่าเป็นส่วนหนึ่งของอิสราเอล
การตัดสินใจของสหรัฐเกิดขึ้นแม้ว่าจะมีเสียงคัดค้านอย่างหนักจากโลกมุสลิม ซึ่งรวมทั้งพันธมิตรสหรัฐด้วย แต่การย้ายสถานทูตสหรัฐก็เป็นไปตามคำมั่นสัญญาที่เคยรณรงค์หาเสียง และเรียกความสนใจจากฐานเสียงฝ่ายขวาของทรัมป์
ทรัมป์บอกว่า การรับรองเยรูซาเล็มกเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล ไม่มีอะไรมากหรือน้อยกว่าการรับรู้ถึงความเป็นจริง และยังเป็นการกระทำที่ถูกต้องด้วย
