"พิธา"ชี้ถึงเวลาแล้วสภาฯต้องเลือกระหว่างประชาชนกับปรสิตที่กัดกินประเทศไทย ลั่นต้องเอามัจจุราชในทำเนียบรัฐบาลออกไป เพื่อให้ประเทศเดินหน้าได้
เมื่อช่วงค่ำวันที่ 2 ก.ย. ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตอนหนึ่งว่า ขอกล่าวหาว่ารัฐบาลตั้งใจจะเทวัคซีนคุณภาพทิ้งลงกลางอ่าวไทย แทนที่จะตามไฟเซอร์ แต่ไฟเซอร์กลับตามรัฐบาลไทย นายกฯอิสราเอลโทรตามซีอีโอไฟเซอร์มากกว่า 30 ครั้ง นายกฯญี่ปุ่นบินไปหาไฟเซอร์เอง รัฐบาลไทยเกียร์ว่าง และไม่พิจารณาม้าตัวนี้เลย การสื่อสารระหวางรัฐบาลไทยกับโคแวกซ์ เห็นชัดว่าโคแว็กซ์เป็นห่วงคนไทยมากกว่ารัฐบาลไทยเสียอีก คุยกันอยู่ดี ก.ย. ต.ค. พ.ย. อยู่ดี ๆ ก็หาย ไลน์ไม่ตอบ จนเขาต้องส่งอีเมล์มาตาม ไม่รู้คุยกันดี ๆ ก็หายไปเลย ในช่วงวันที่ 22 และ 26 เม.ย. บอกว่ามั่นใจมีวัคซีน ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางผลิตวัคซีนของอาเซียน แต่ 2 วันขอบริจาคขอรับบริจาคเขา ผมไม่รู้ว่าจะใช้คำว่าต่อหน้ามะพลับ ลับหลังตะโก สุดท้ายเขาก็บริจาคเข้าโคแว็กซ์ ต่อมาไปขอสถานทูตหนึ่งเขาตอบมาว่าบริจาคผ่านโคแว็กซ์เท่านั้น ม้าตัวหลักเททิ้ง พอม้าเต็งไม่มาตามนัด ม้ามืดเลยกลายเป็นม้าหลัก ซีอีโอบริษัทวัคซีนมีข่าวการติดสินบน คนเป็นนายกฯรู้หรือไม่ และ ATK ก็มีลักษณะเดียวกัน
"คำถามใหม่ที่ต้องถามตอนนี้ เราต้องเลือกระหว่างประชาชนกับปรสิตที่กัดกินประเทศไทยอยู่ทุกวันนี้ ถามประชาชนที่โหวตเลือกพวกเรามาไว้วางใจได้หรือครับกับระบอบปรสิตที่กัดกินประเทศไทยอยู่ในขณะนี้ ตั้งแต่นายกฯ รัฐบาล คนที่รัฐบาลเลือกมา ในยามที่ประเทศวิกฤตแบบนี้ ผมเชื่อว่าอนาคตของประเทศไทยดีกว่านี้ได้ มีรัฐบาลที่ดีกว่านี้ได้ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านทุกคน รวมถึงตัวผมสามารถเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีกว่านี้ได้ เอาระบอบปรสิตแบบนี้ออกไปได้ อันนี่คือสิ่งที่พวกเราต้องเลือก มาถึงตอนนี้ผมถึงเรียกร้องให้สภาแห่งนี้ เลือกเอาชีวิตประชาชนหรือระบอบปรสิตให้เป็นแบบนี้ต่อไป ถึงเวลาแล้วที่เราต้องเอามัจจุราชในทำเนียบรัฐบาลออกจากประเทศของเรา และให้ประเทศของเราเดินหน้าไปได้ "นายพิธา กล่าว