"เจ้หงส์" เก็บซาก "ภูริดา" จนเน่าคารถ ส่งกลิ่นเหม็น เผยรักมากไม่อยากแยกจาก ล่าสุดนำไปฝังดินแล้ว
เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจ มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand - WDT ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า มูลนิธิฯ ได้รับแจ้งจากผู้ดูแลคอนโดมิเนียมที่ภูริดาอาศัยอยู่ ล่าสุด ได้รับแจ้งจากเจ้าของว่า ภูริดาเสียชีวิตด้วยอาการป่วยบนห้องพัก เจ้าของทำใจไม่ได้ จึงนำร่างมาไว้ในรถของตนได้ประมาณ 2-3 วันแล้ว ทางเจ้าของเสียใจมากยังทำใจไม่ได้จึงไม่ได้นำร่างภูริดาไปไหนกำหนดวันนี้จะนำไปวัด WDT ประสาน สภ.ปากคลองรังสิต ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบและสอบสวนหาสาเหตุการตายที่แท้จริง ร.ต.อ.อภิรมย์ ไชยตา ตำแหน่ง รอง สวป.สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี พร้อมด้วย ร.ต.ต.วิศิษฐ์ ไชยจำ รองสว(ป).สภ.ปากคลองรังสิต และ ส.ต.อ.เกรียงไกร ศรีริรมย์ ผบ.หมู่ป.สภ.ปากคลองรังสิต เข้าตรวจสอบ พร้อมรายงานว่า เจ้าของพาภูริดาขับรถออกไปเที่ยวและปล่อยออกเดินเล่นแล้วจู่ๆภูริดาก็ช็อกล้มลงจากอาการเจ็บป่วยเกล็ดเลือดต่ำ คาดว่าน่าจะเกิดจากการเป็นพยาธิเม็ดเลือดมานานแล้ว เมื่อภูริดาเสียชีวิตเจ้าของไม่สามารถทำใจได้จึงเก็บภูริดาไว้ในรถได้ประมาณสามวันจนส่งกลิ่นทำให้นิติบุคคลต้องเข้ามาตรวจแล้วแจ้งมายัง WDT ในที่สุด ภูริดาคือพิทบูลหนึ่งเดียวที่เจ้าของไม่ยอมยกให้ใคร บอกว่ารักมากจะเลี้ยงเองและนำไปเลี้ยงในคอนโดที่เดิม มูลนิธิฯ ขอแสดงความเสียใจกับเจ้าของด้วยนะคะ งดตำหนิเจ้าของนะคะ
ด้านรายการเรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า วันที่ 31 ส.ค. นายสมศักดิ์ งามแท้ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหลักหก พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลตำบลหลักหก และเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ปากคลองรังสิต ได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีกลิ่นเหม็นออกมาจากรถเก๋งยี่ห้อโปรตรอน สีฟ้าหมายเลขทะเบียน กต 7866 ร้อยเอ็ด ซึ่งจอดอยู่ที่โดมอเนกประสงค์ของโรงเรียนวัดรังสิต ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี จึงไปที่เกิดเหตุ ปรากฏว่าด้านในรถพบผู้หญิงเป็นคนขับและจำได้ว่าเป็นเจ้าของสุนัขพิทบูลจำนวนหลายตัวที่เลี้ยงบนคอนโดมิเนียมย่าน ต.บางพูล อ.เมือง จ.ปทุมธานี ตามที่เป็นข่าวเมื่อหลายเดือนก่อน ซึ่งบริเวณที่พักเท้าข้างคนขับพบซากสุนัขพันธ์พิทบูลเพศเมีย ชื่อภูริดา อายุ 3 ปี ได้เสียชีวิตและส่งกลิ่นเหม็น ขึ้นอืด จากการสอบถามเจ้หงส์ เจ้าของสุนัขบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ภูริดาตาย 3 วันแล้ว ด้วยอาการป่วยซึ่งเป็นสุนัขที่ตนเองรักมากและไม่อยากจากกัน จึงได้นำขึ้นรถไปด้วยทุกที่และวันนี้ก็จะนำมาเผาที่วัดรังสิต
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า จากการสอบถามเจ้าของสุนัขก็ทราบว่า อยากจะเผาสุนัขสุดรักของตนเอง แต่เนื่องจากเตาเผาศพของวัดรังสิตไม่เอื้ออำนวยกับการเผาสุนัข จึงได้พูดคุย สรุปว่าเจ้าของสุนัข จะนำสุนัขไปฝังดินที่ข้างวัดและนิมนต์พระมาบังสุกุลให้กับสุนัข เพื่อความสบายใจของเจ้าของสุนัข
ขอบคุณเพจ มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand - WDT,เรื่องเล่าเช้านี้