เหยื่อแชร์ลูกโซ่ ร้องปปง. ตรวจสอบบริษัทเอกชน ลวงลงทุนธุรกิจขายตรง เสียหายกว่า 100 ล้าน เผยพฤติกรรมเข้าข่ายฟอกเงิน
เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย พร้อมผู้เสียหายที่ถูกหลอกร่วมลงทุนธุรกิจเข้าข่ายต้องสงสัยเป็นแชร์ลูกโซ่ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ ร.ต.อ.ไพรัตน์ เทศพานิช เลขานุการกรม สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อขอให้ตรวจสอบบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งย่านรัชดาภิเษกที่เข้าข่ายดังกล่าวว่า มีความผิดฐานฟอกเงินหรือไม่
นายสามารถ เปิดเผยว่า บริษัทดังกล่าว จะจัดฉากให้ผู้เสียหายได้ถ่ายภาพคู่กับเงินจำนวนมากโดยอ้างว่าเป็นกำไรที่ได้จากการขายสินค้า ทั้งที่เป็นเงินของผู้เสียหายที่นำมาใช้ซื้อสินค้าตามคำชักชวน อีกทั้งยังให้ผู้เสียหายถ่ายภาพคู่กับรถยนต์หรูเพื่อใช้โฆษณาทางเฟซบุ๊ก หรือใช้แอบอ้างอีกด้วย โดยทั้งหมดนี้เป็นพฤติกรรมของบริษัทเอกชนแห่งนี้ ที่เชื่อว่า อาจเข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงิน และหลีกเลี่ยงภาษี ซึ่งตรวจสอบข้อมูลพบว่า ปัจจุบันบริษัทแห่งนี้มีสมาชิกที่สมัครเข้าไปเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นคน ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่นอายุ 16-30 ปี มูลค่าความเสียหายขั้นต่ำที่ผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า มีคนติดต่อผ่านทางเฟซบุ๊กเพื่อชักชวนให้โปรโมทสินค้าเสริมความงาม โดยอ้างว่า มีรายได้ 3,000-5,000 บาท ต่อสัปดาห์ จึงลองไปดูรายละเอียดที่บริษัท และถูกหว่านล้อมจนหลงเชื่อยอมจ่ายเงิน 30,000 บาท เพื่อซื้อสินค้าเตรียมนำไปขายต่อ แต่ระหว่างนั้นหนึ่งในตัวแทนบริษัทได้บอกให้ตนพยายามหาลูกค้าที่เป็นคนรู้จัก โดยเฉพาะคนที่อยู่ตามต่างจังหวัด จึงเชื่อว่าถูกหลอก จึงตัดสินใจเข้าร้องทุกข์ในวันนี้ อย่างไรก็ตาม จากการรวบรวมข้อมูล พบว่า ยังมีพฤติการณ์ต้องสงสัยอีกหลายอย่าง เช่น นำบัตรประชาชนคนอื่นมาใช้สมัครแทน ให้ข้อมูลผลตอบแทนสูงกว่าความเป็นจริง ไม่ได้สินค้าครบตามจำนวน มีการข่มขู่ไม่ให้เปิดเผยข้อมูลใดๆ ในทุกขั้นตอน โดยกลุ่มผู้เสียหายยังเตรียมเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวการคุ้มครองผู้บริโภคด้วย