เจ้าหน้าที่ระดับสูงสหรัฐฯ อ้างว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ จะประกาศยอมรับเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล ในการกล่าวปราศรัยวันนี้
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ แถลงว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ จะยอมรับว่าเยรูซาเลม เป็นเมืองหลวงของอิสราเอลในวันนี้ (พุธ) และยื่นญัตติย้ายสถานทูตสหรัฐฯ จากกรุงเทลอาวีฟ ไปยังเยรูซาเลม ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวเท่ากับเป็นการทำลายนโยบายสหรัฐฯ ที่ยึดมั่นมานานหลายสิบปี และเสี่ยงที่จะจุดชนวนให้เกิดความรุนแรงในตะวันออกกลาง ในการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งสำคัญ ทรัมป์ ซึ่งต้องเผชิญหน้ากับกระแสคัดค้านอย่างหนักหน่วงจากชาติอาหรับ จะประกาศว่า เขาได้สั่งให้กระทรวงต่างประเทศเริ่มปรับปรุงแผนการย้ายสถานทูตสหรัฐฯ ออกจากเทลอาวีฟ ซึ่งคาดว่ากระบวนการจะใช้เวลา 3-4 ปี โดยเขาไม่ได้กำหนดกรอบเวลาสำหรับการย้ายสถานทูตครั้งนี้
แต่เจ้าหน้าที่ ก็กล่าวว่า ทรัมป์จะไม่ย้ายสถานทูตสหรัฐฯ จากเทลอาวีฟไปยังเยรูซาเลมในทันที โดยข่าวดังกล่าวมีขึ้นก่อนการกล่าวสุนทรพจน์ของทรัมป์ที่คาดว่าจะมีขึ้นในวันนี้
บรรดาผู้นำอาหรับ เตือนก่อนหน้านี้ว่าอย่าย้ายสถานทูตสหรัฐฯ ในอิสราเอลไปยังเยรูซาเลม โดยมีคนหนึ่งกล่าวว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวจะเป็นการการยั่วยุชาวมุสลิม ทั้งนี้ สถานะของเยรูซาเลม ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่สำคัญของทั้งอิสราเอลและปาเลสไตน์ ยังเป็นที่โต้เถียงกันอย่างรุนแรง อิสราเอลมักอ้างว่า เยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของตน ขณะที่ ปาเลสไตน์ก็อ้างว่า พื้นที่ด้านตะวันออกของเยรูซาเลม เป็นเมืองหลวงของรัฐปาเลสไตน์ในอนาคต
หากยอมรับเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล สหรัฐฯ จะเป็นประเทศแรกที่ทำเช่นนั้น ตั้งแต่ก่อตั้งอิสราเอลในปี พ.ศ.2491 โดยอิสราเอลยึดครองเอาพื้นที่ดังกล่าวในช่วงสงครามตะวันออกกลางในปี พ.ศ.2510 และกำหนดให้ทั้งเมืองเป็นเมืองหลวงที่ไม่สามารถแบ่งแยกได้ ก่อนหน้านี้ จอร์แดนยึดครองอยู่