"ผกก.โจ้" นอนคุกนำตัวไปคุมขังเรือนจำกลางพิษณุโลก

2021-08-27 21:37:13

"ผกก.โจ้" นอนคุกนำตัวไปคุมขังเรือนจำกลางพิษณุโลก

Advertisement

ศาลจังหวัดนครสวรรค์อนุญาตฝากขัง "ผกก.โจ้"  27 ส.ค. – 7 ก.ย. นำตัวไปคุมขังที่เรือนจำกลางพิษณุโลก 

เมื่อวันที่ 27 ส.ค. พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ ยื่นคำร้องขอฝากขังครั้งแรก พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล  หรือ "ผกก.โจ้" อายุ 39 ปี  อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ เป็นจำเลยในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจ หรือผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้อง กระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมสิ่งนั้น โดยเป็นการฝากขังผ่านระบบการประชุมทางจอภาพ ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2564 เวลากลางคืน ผู้ต้องหากับพวกเป็นตำรวจ ประจำ สภ.เมืองนครสวรรค์ ทำหน้าที่ประจำชุดปราบปรามยาเสพติด ร่วมกันจับกุมตัว นายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ และ น.ส.กนกวรรณ หรือ เฟิร์น คล้ายนิ่ม สองสามีภรรยาที่ร่วมกันนำยาไอซ์ จำนวน 3 ถุง น้ำหนักถุงละ 100 กรัม มาจำหน่ายให้กับสายลับของผู้ต้องหาที่ทำการล่อซื้อ โดยจับกุมตัวได้ที่หน้าเซเว่นอีเลฟเว่น ตลาดนัดหน้าค่ายจิรประวัติ ต.นครสวรรค์ออก อ.เมือง จ.นครสรรค์ และตรวจยึดรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน ขฉ 2905 ชัยนาท ต่อมาขณะที่นายจิระพงศ์ อยู่ในการควบคุมของผู้ต้องหากับพวก  ผู้ต้องหากับพวกทราบว่า นายจิระพงศ์ มียาบ้าไว้จำนวนมาก ต่อมาวันที่ 5 ส.ค.2564 เวลากลางวัน ผู้ต้องหากับพวกประกอบด้วย พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล พ.ต.ต.รวิโรจน์ ดิษทอง  ร.ต.อ.ทรงยศ คล้ายนาค ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา  ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว ด.ต.ศุภากร นิ่มชื่น และ ส.ต.ต.ปวีณ์กร คำมาเร็ว ร่วมกันสอบเค้นหาที่ซ่อนยาเสพติดดังกล่าว โดยใช้ถุงพลาสติกโดยไม่มีช่องอากาศ ครอบศีรษะนายจิระพงศ์ ม้วนปิดปากถุงเพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปในถุง ทำให้นายจิระพงศ์ หายใจไม่ออก พยายามดิ้น ผู้ต้องหากับพวกดังกล่าวได้ร่วมกันจับลำตัว แขน นายจิระพงศ์เพื่อไม่ให้ขัดขืน การกระทำของผู้ต้องหากับพวก ทำให้นายจิระพงศ์ ขาดอากาศหายใจ หมดสติ และถึงแก่ความตาย  ส่วนยาเสพติดที่ล่อซื้อได้ไม่ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี และได้ปล่อยตัว น.ส.กนกวรรณ หรือ เฟิร์น คล้ายนิ่ม กับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน ขฉ 2905 ชัยนาทไป การที่ผู้ต้องหากับพวกให้สายลับล่อซื้อยาเสพติดจนจับกุมนายจิระพงศ์ กับ น.ส.กนกวรรณ ได้พร้อมยาเสพติดเป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย แต่การที่ใช้วิธีบังคับที่เป็นอันตรายต่อชีวิต เพื่อขยายผลเครือข่ายยาเสพติดเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและเมื่อผู้ถูกกระทำถึงแก่ความตาย ผู้ต้องหากับพวกไม่ส่งยาเสพติดที่ล่อซื้อได้ดำเนินคดีตามกฎหมายเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หลังเกิดเหตุมารตาผู้ตายได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เมื่อพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลจังหวัดนครสวรรค์ ออกหมายจับ ซึ่งศาลอออกหมายจับเลขที่ 183/2564 ลงวันที่ 25 ส.ค.2564

จากนั้นเมื่อ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ผู้ต้องหาทราบว่ามีหมายจับได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจขอมอบตัวเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา แก่ผู้ต้องหา คือ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล เหตุเกิดที่ ต.นครสวรรค์ตก อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ เมื่อวันที่ 5 ส.ค.2564 การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 157, 289, 309 วรรคสอง ท้ายคำร้อง พนักงานสอบสวนยังระบุว่า ได้สอบสวนและควบคุมตัวผู้ต้องหามาจะครบ 48 ชม.แล้ว แต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากต้องสอบสวนพยานอีก 10 ปาก รอผลการตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา จึงขออนุญาตฝากขังมีกำหนด 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค. – 7 ก.ย. 2564 และขอคัดค้านการประกันเนื่องจากคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ มีอัตราโทษสูง ประกอบกับผู้ต้องหาเป็นตำรวจกระทำผิดเสียเอง หากมีการปล่อยตัวชั่วคราวเกรวงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ทั้งนี้ ประสงค์จะดำเนินการยื่นคำร้องฝากขัง โดยขอให้ศาลสอบถามผู้ต้องหา หรือทำการไต่สวนพยานหลักฐานในการออกหมายขังผู้ต้องหาผ่านระบบการประชุมทางจอภาพในการฝากขังครั้งต่อไปทุกครั้งด้วย ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้ นอกจากนี้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ ยังได้ยื่นฝากขัง ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา หรือ ผู้กองธรณินทร์ อายุ 55 ปี ลูกน้องคนสนิท ซึ่งเป็นตำรวจที่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดในเหตุการณ์เดียวกันกับ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ โดยในคำร้องฝากขังพนักงานสอบสวนก็ได้คัดค้านประกันเช่นเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำได้นำตัว พ.ต.อ.ธิติสรรค์ และพวกรวม 7 คนไปคุมขังที่เรือนจำกลางพิษณุโลก เนื่องจากเรือนจำกลางนครสวรรค์เป็นเรือนจำสีแดง จึงขออนุญาตศาลย้ายไปใช้เรือนจำกลางพิษณุโลกในการคุมขังแทน