"ผกก.โจ้"เปิดปากขอรับผิดผู้เดียว ไม่ได้มีเจตนาฆ่าผู้ต้องหาแต่พลาดไป (มีคลิป)

2021-08-26 22:54:24

"ผกก.โจ้"เปิดปากขอรับผิดผู้เดียว ไม่ได้มีเจตนาฆ่าผู้ต้องหาแต่พลาดไป (มีคลิป)

Advertisement

"ผกก.โจ้"เปิดปากใช้ถุงคลุมหัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดเสียชีวิตขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียว ลูกน้องไม่เกี่ยว ยันต้องการเค้นข้อมูล ทำลายยาเสพติด  ไม่ได้มีเจตนาฆ่า แต่พลาดไป สาบานไม่เคยพูดเรื่องรีดเงินล้าน  ไม่มีทนายตบทรัพย์แต่อย่างใด 

เมื่อเวลา 21.44 น. วันที่ 26 ส.ค.  ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.  แถลงข่าวปิดคดีกรณี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ "ผู้กำกับโจ้" อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ พร้อมพวกรวม 7 คน ถูกออกหมายจับ ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยใช้กำลังประทุษร้าย และร่วมกันฆ่าผู้อื่น โดยทรมาน หรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย  ภายหลังใช้ถุงพลาสติกคลุมหัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนเสียชีวิต 

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แถลงว่า จับผู้ต้องหาได้ครบทั้งหมด 7 คน การจับกุมก็ดี การรับมอบตัวก็ดี เราก็พยายามทำให้สังคมเห็นว่า เราไม่ได้เคยปกป้องคนกระทำผิด เราเอาทุกคนเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรม อย่างน้อยเพื่อให้เห็นว่า เราไม่เคยปกป้อง องค์กรตำรวจจะอยู่ได้ด้วยความเชื่อมั่นของประชาชน ที่ผ่านมาในนามองค์กรขอโทษพี่น้องประชาชนที่เกิดเรื่องแบบนี้ ยืนยันองค์กรเราตรวจสอบได้ ท่านจะเห็นว่าไม่มีตำรวจทำผิดแล้วหลบหนีไปได้ เราดำเนินการเกือบทั้งหมด ยืนยันว่า แม้จะเป็นยศชั้นไหนเหมือนกัน ตั้งแต่ ผบ.ตร.ลงไปถึงลูกแถวถ้าทำอะไรไม่ดี ทำผิดต้องถูกลงโทษ อยากให้มั่นใจ วันนี้รายละเอียดก็อยากฟังจากปากของผู้กระทำ เราไม่มีนโยบายเอาผู้ต้องหามาแถลงข่าว อาจจะใช้วิธีโฟนอินเข้ามา 

จากนั้น ผกก.โจ้ ได้โฟนอินเข้ามาโดยระบุว่ามี ทนายความ และตำรวจอยู่ด้วย โดยเจ้าตัวเปิดใจครั้งแรกตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ว่าจะยอมรับสารภาพกับการกระทำที่เกิดขึ้นหรือไม่ว่า ผมขออนุญาตพูดว่าข้อหาที่ตั้งผมขออนุญาตให้การในชั้นศาล  แต่ผมจะเล่าข้อเท็จจริงให้ฟังว่า ลูกน้องมาแจ้งผมว่าจับยาเสพติดมาได้ แล้วเจอโทรศัพท์ที่ถ่ายรูปก่อนหน้านี้ 2 ชม.มียาไอซ์ 1 กก. ยาบ้าประมาณเกือบ 2 หมื่นเม็ด ปกติผมไม่เคยลงไปดูเลย เห็นว่าเป็นเคสใหญ่ก็ลงไปดู พยายามสอบถามแล้วก็ไม่ยอมบอกความจริง ผมยอมรับว่าสิ่งที่ทำไปไม่ถูกต้อง แต่สิ่งที่ทำไปต้องการเอาข้อมูล และทำลายยาเสพติดที่ทำลายพี่น้องประชาชนในนครสวรรค์ครับ  ผมขอยอมรับผิดเพราะสั่งลูกน้องให้ทำเอง ลูกน้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและได้ห้ามผมแล้ว ผมขอรับผิดแต่ผู้เดียวครับ เพราะว่าผมเป็นนายสั่งลูกน้อง ๆก็ต้องทำครับ เราทำเพื่อต้องการทำงาน เรื่องเงินไม่มีครับ  

ต่อข้อถามว่า การใช้ถุงคลุมหัวต้องการเรียกรับเงินหรือไม่ ผกก.โจ้ กล่าวว่า ไม่มีเรื่องเงิน ผมเอาถุงคลุมเขาเจตนาคือตอนแรกๆไม่อยากให้เขาเห็นหน้า แต่เขาเอามือฉีกถุง ผมเลยต้องมัดเขา หลังจากนั้นก็เอามือไขว้หลัง ไม่เช่นนั้นเขาก็ฉีกถุง 

เมื่อถามว่าเคยทำแบบนี้มาก่อนหรือไม่ ผกก.โจ้ กล่าวว่า ไม่เคยครับ ครั้งแรก 

ต่อข้อถามถึงการเรียกรับเงิน มีเสียงเรียกเงิน 1 ล้าน ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ผกก.โจ้ ตอบว่า ไม่มีเสียงนี้แน่นอน ผมสาบายกับพระที่ห้อยคอได้เลยครับ ชีวิตผมรับราชการมา ไม่เคยมีทุจริตเรื่องเงินครับ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมไม่แจ้งผู้บังคับบัญชาตอนผู้ต้องหาสลบไป ผกก.โจ้ กล่าวว่า ตอนนั้นเราก็ตกใจ ทำอะไรไม่ถูก เพราะเขาเหมือนสลบไป จับชีพจร และลมหายใจ เขาเหมือนหายใจอยู่ มันเหมือนอ่อน เราก็เลยไม่แน่ใจ เลยให้ลูกน้องมาปั๊มซีพีอาร์ และให้รีบนำส่ง รพ. 

เมื่อถามอีกว่า แล้วได้แจ้งกับหมอหรือไม่ ทำไมลงไปว่าเสพยาเกินขนาด ผกก.โจ้ ตอบว่า อ๋อ เสพยาเสพติดเกินขนาด พอดีคุยกับแฟนเขา เขามีการเสพยาแต่ละวันปริมาณเยอะจริงๆแล้วเขาก็ไม่ได้นอน นอนน้อย พักผ่อนน้อย ก็เลยคาดว่าช็อกน่าจะเกิดจากการเสพยาครับ

ต่อข้อถามว่า ขั้นตอนการซ้อมทรมานแบบนั้นมันเป็นขั้นตอนปฏิบัติหรือไม่ ผกก.โจ้ ตอบว่า ตรงนี้ผมยอมรับว่าผมผิด ยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นไม่ว่าศาลจะตัดสินอะไร จะจำคุกผมตลอดชีวิตผมยอมรับผิดทุกประการ แต่ผมขอให้การว่าผมไม่ได้มีเจตนาฆ่าน้อง ผมมีเจตนาที่จะทำงานครับ ทำงานเพื่อประชาชน ไม่ให้ลูกหลานติดยาเสพติด

เมื่อถามว่า สิ่งที่ทำตกเป็นข่าวไปทั่วโลกสร้างความเสียหายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจเสียหาย ผกก.โจ้ กล่าวว่า อันนี้อย่างแรกต้องกราบขอโทษพี่น้องประชาชน ผมตั้งใจทำงานจริงๆครับแต่มันพลาดไป ผมยอมรับในสิ่งที่ผมผิดพลาดครับ ผมต้องกราบขอโทษคุณพ่อคุณแม่น้องด้วยผมไม่ได้เจตนาจริงๆ ใจจริงๆก็ทราบว่าไม่ได้ตายเพราะเราไปคลุมหัวเพื่อต้องการเอาข้อมูลยาเสพติด และ ผมกราบขอโทษ ผบ.ตร. และตำรวจทุกคน ผมผิดเอง ตร.ยังมีคนดี ๆ เยอะ ผมเป็นคนผิดเองครับ ต้องขอโทษทุก ๆ คนด้วยครับ

เมื่อถามถึงกรณีทนายความตบทรัพย์ซ้อนตับทรัพย์ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ผกก.โจ้ กล่าวว่า ผมยืนยันว่าไม่มีการตบทรัพย์ ไม่มีแน่นอนครับ 

เมื่อถามว่า การที่ผู้ต้องหาเสียชีวิตทำไมไม่ทำข้อเท็จจริงให้ถูกต้อง ผกก.โจ้ กล่าวว่า เราก็ตกใจ ก็ปรึกษากันว่าจะทำอย่างไร เลยคิดว่าแจ้งพ่อเขาก่อน เดี๋ยวค่อยมาคุยกันว่าจะเอาอย่างไรดี 

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการข่มขู่ ให้ผลประโยชน์กับพ่อหรือไม่ ผกก.โจ้ ตอบว่า ไม่มีครับ ผมให้อย่างเดียวคือ ช่วยทำบุญงานศพไป 3 หมื่นบาทเท่านี้ครับ 

ส่วนการสาดน้ำใส่ผู้ต้องหา ผกก.โจ้ ชี้แจงว่า ผมคิดว่าเขาสลบก็ใช้น้ำเพื่อให้เขาตื่น เอาผ้ามาเช็ดก่อน พอเช็ดเหมือนไม่ตื่น ก็เลยเอาน้ำเพื่อให้เขาตื่น ตอนนั้นก็ตกใจเพราะเราไม่เคยเจอแบบนี้ ก็แค่คิดว่าเขาสลบไป ตอนแรกคิดว่าเขาแกล้งด้วยซ้ำ อันนี้พูดจากใจ 

ต่อข้อถามว่าเคยมีการซ้อมทรมานแบบนี้หรือไม่ ผกก.โจ้ บอกว่า ไม่มี ผมไม่เคยลงมาแบบนี้ อันนี้เป็นเคสแรกเนื่องจากเป็นเคสใหญ่ ทราบว่า ของมีเยอะ และเจ้าของเป็นผู้ค้ารายใหญ่มากในภาคกลาง เป็นการตัดสินใจของผมคนเดียว ลูกน้องไม่เกี่ยว เขาห้ามผมแล้ว แต่ว่าตอนนั้นอยากทำงาน  ไม่ได้ตั้งใจ แต่ทำไปแล้ว ผมยอมรับผิดทุกประการครับ 

เมื่อถามว่า ทำไมใช้ถุงพลาสติก 6 ใบ  ผกก.โจ้ กล่าวว่า ผมต้องการปิดหน้าผม ไม่อยากให้เห็นหน้าแต่แรก ส่วนวิธีการนี้เจตนาตอนแรกต้องการปิดหน้าตัวเอง 

เมื่อถามย้ำว่าไม่ได้เจตนา แต่ทำไมต้องถอดกล้องวงจรปิดออก ผกก.โจ้ ตอบว่า ผมยอมรับผิด ตอนนั้นบอกตรง ๆ เกิดเหตุก็ช็อก ผมก็อายุน้อย ประสบการณ์น้อยไม่รู้จะทำอย่างไร ผมสั่งเอง จริงๆ มีกล้องบางตัวเสีย ผมสั่งให้เปลี่ยนานแล้ว แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยน ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ผมก็เลยบอกให้ถอดเลย ผมไม่ทราบว่ามีกล้องวงจรปิดในห้อง 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกอย่างไร ที่ตำรวจชั้นผู้น้อยนำคลิปมาเปิดเผย  ผกก.โจ้ ตอบว่า ขอให้การเพียงเท่านั้น ขณะที่ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. รอง ผบ.ตร. ตัดบทว่า  พอแล้ว หลายอย่างเกี่ยวข้องกับการดำเนินคดี แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ไม่เช่นนั้นจะเสียหายต่อรูปคดี  ถ้าคุณถามอย่างนี้กันหมดก็เจ๊ง