ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุก 5 ปี ปรับ 2 แสน "กานต์" หมิ่น "อีฟ"

2021-08-25 14:11:01

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุก 5 ปี ปรับ 2 แสน "กานต์" หมิ่น  "อีฟ"

Advertisement

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุก 5 ปี ปรับ 2 แสน "กานต์" หมิ่นประมาท  "อีฟ แม็กซิม" กล่าวหาเป็นคนไม่ดี หากินด้วยการค้าประเวณี โทษจำคุกรอลงอาญา 2 ปี

เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีที่ น.ส.อภิสร์ญา พัฒนวรทรัพย์ หรือ "อีฟ แม็กซิม" อายุ 30 ปี อดีตรองมิสแม็กซิมไทยแลนด์ ปี 2008 เป็นโจทก์ฟ้อง นางวิภากร หรือกานต์ ศุขพิมาย อายุ 48 ปี ภรรยาของนายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือ "เสก โลโซ" อกเกอร์ชื่อดัง เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328  กรณีจำเลยได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กหลายครั้ง ทำนองว่า อีเหลือมมาเกาะผัวกินไม่ทำงาน ผัวกูทนลำบากอดทนไม่ได้ที่จะต้องจนและอยู่กับกระหรี่อย่างมึง และข้อความอื่นซึ่งล้วนเป็นเท็จ ทำให้ผู้ที่อ่านข้อความเข้าใจว่า โจทก์เป็นคนไม่ดี ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกเกลียดชัง เหตุเกิดทั่วราชอาณาจักร ศาลไต่สวนมูลฟ้องแล้ว คดีมีมูลประทับรับฟ้อง ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา

คดีนี้ศาลชั้นต้น พิพากษา เมื่อวันที่ 15 ก.ค.2563 ว่า จำเลยกระทำความผิด ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ประกอบ 326 หลายกรรมต่างกันเป็นกระทงความผิดไปจำคุกจำเลยกระทงละ 1 ปี ปรับ 40,000 บาท รวม 5 กระทง เป็นจำคุก 5 ปี ปรับ 200,000 บาท ความผิดจำเลยเกี่ยวกับความขัดแย้งเรื่องครอบครัว จำเลยมีความกดดันหลังเลิกกับสามี และไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน จึงเห็นควรให้รอลงอาญาโทษจำคุก เป็นเวลา 2 ปี และลบข้อความหมิ่นประมาทโจทก์ ส่วนที่โจทก์ขอให้จำเลยขอขมานั้น ไม่มีกฎหมายระบุไว้

ศาลอุทธรณ์ เห็นว่า  จำเลยมีเรื่องขัดแย้งกับโจทก์มาตลอดโดยเขียนข้อความและแพร่ภาพลงในเฟซบุ๊กของจำเลย ระบุเรียกขานโจทก์ว่า เหลือม หรือ อีเหลือม ซึ่งข้อความที่บันทึกมีถ้อยคำหมิ่นประมาทโจทก์และบุคคลที่สามที่เข้ามาดูและอ่านข้อความในเฟซบุ๊กสามารถรับทราบและรู้ได้ว่าจำเลยเขียนพาดพิงถึงตัวโจทก์ อีกทั้งพยานโจทก์เบิกความว่าพยานเคยทำงานกับจำเลยมาก่อน จำเลยเรียกชื่อโจทก์ว่า  "อีฟ" แต่เมื่อผิดใจกัน จำเลยเรียกชื่อโจทก์ว่า "อีเหลือม" ส่วนที่จำเลยอ้างว่าเป็นการโพสต์ข้อความลอยๆ ไม่ได้ระบุชื่อโจทก์นั้น เห็นว่าเป็นการกล่าวอ้างไร้น้ำหนักพยานหลักฐานโจทก์จึงรับฟังได้ว่ารูปภาพและข้อความที่เผยแพร่ในเฟซบุ๊กของจำเลยมุ่งประสงค์ถึงตัวโจทก์ อุทธรณ์ข้อนี้ของจำเลยฟังไม่ขึ้น การโพสต์ข้อความเป็นการกล่าวหาว่าโจทก์เป็นคนไม่ดี หากินด้วยการค้าประเวณี เป็นคนลักขโมยปอกลอกทรัพย์สินของคนอื่น ทั้งข้อความนี้เป็นการใส่ความในเรื่องส่วนตัวของโจทก์ ไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน การกระทำของจำเลยจึงเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์แล้ว อุทธรณ์ข้อนี้ของจำเลยฟังไม่ขึ้น การที่ศาลชั้นต้นใช้ดุลพินิจในการลงโทษจำเลยโดยรอการลงโทษจำคุกให้จำเลยจึงเหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ไม่มีเหตุผลที่เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด  ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้นศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วยอุทธรณ์ข้อนี้ของโจทก์ฟังไม่ขึ้นพิพากษายืน