นับเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่หลังจาก"คุณแม่ดาวทิพย์ วัชรตระกูล" คุณแม่ของนางเอกสาว"ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ วัชรตระกูล" ได้จากไปอย่างสงบ โดยเมื่อวานที่ผ่านมาทางครอบครัวได้ทำพิธีไว้อาลัยคุณแม่ดาวทิพย์ ณ โบสถ์พระมหาไถ่ ร่วมฤดี โดยทางปุ๊กลุกได้ออกมาเผยถึงความในใจอย่างเศร้าโศกว่า
ย้อนกลับไปตอนที่คุณแม่ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล อาการคุณแม่เป็นยังไงบ้าง?
มีช่วงแรกเหมือนดีขึ้นค่ะ ที่เคยแจ้งไปในรายการเมื่อวันที่19 ค่ะ ว่าเหมือนมีการติดเชื้อในกระแสเลือด พอติดเชื้อในกระแสเลือดทุกอย่างก็แย่ลงค่ะ ทางคุณหมอก็แจ้งตั้งแต่ต้นว่าคุณแม่ไม่น่าจะอยู่ได้นานมากค่ะ ไม่น่าจะเกินวันถึงสองวัน แต่เหมือนท่านจะสู้เพราะรู้ว่าพวกเราคงไม่ไหวถ้าท่านไปแบบกระท้นหันค่ะ คือในแผ่นฟิล์มเอกซเรย์คุณแม่เป็นเส้นเลือดในสมองแตก และแตกบริเวณที่เป็นแกนสมอง ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญในสมองเลย แล้วก็เป็นส่วนที่สั่งการทุกอย่างในร่างกายเลยค่ะ ในฟิล์มเอกซเรย์ขึ้นเลยว่าคุณแม่ขาดอากาศหายใจนานเกินไป แล้วก็ทำให้มีภาวะสมองบวมทั้งหมด บวมจนไม่สามารถที่จะทำการผ่าตัดได้เลย ตอนที่คุณแม่เปลี่ยนมาใช้เครื่องช่วยหายใจขนาดเล็ก เครื่องจะตั้งค่าอยู่ที่ 18 ครั้ง ต่อ 1 นาที แต่ทุกครั้งที่เรากับพี่สาวที่สลับกันเข้าไป พอท่านได้ยินเสียงเราคุณแม่ก็จะหายใจได้เกินที่เครื่องช่วยหายใจตั้งไว้ค่ะ
เรารักษาคุณแม่อย่างดีที่สุด?
คุณหมอก็แจ้งตั้งแต่ต้นว่าไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่จะต้องรักษาคุณแม่ เพราะว่ายังไงก็ไม่น่าจะไปต่อไปค่ะ(ร้องไห้) แต่ทางครอบครัวก็ตกลงว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะให้คุณแม่เป็นคนเลือกเอง ให้โอกาสคุณแม่ คือเราจะไม่ปล่อยมือคุณแม่ นอกจากคุณแม่ปล่อยมือจากเราค่ะ ครอบครัวก็ยืนยันที่จะรักษามากที่สุด จนเราใช้ยาตัวสุดท้ายที่สามารถใช้ได้กับคุณแม่ จนไม่มียาตัวไหนที่สามารถยื้อคุณแม่ได้แล้ว เรามีการพูดคุยกับคุณแม่ตลอดว่าถ้าคุณแม่เหนื่อยหรือไม่ไหว ก็ให้คุณแม่ค่อยๆจากไปอย่างสงบค่ะ
คุณหมอบอกว่าเป็นเคสปาฏิหาริย์เหมือนกัน เพราะคุณแม่ก็รักษาตัวมาได้นานระดับหนึ่ง?
หนูว่าแม่น่าจะรู้ว่าเราไม่น่าจะไหวเลยค่ะ มันค่อนข้างกระชั้นชิดจริงๆค่ะ คุณแม่เป็นเหมือนศูนย์กลางของครอบครัว คุณแม่ค่อนข้างทราบว่าครอบครัวเราไม่ไหวจริงๆ คุณแม่น่าจะสู้เพื่อให้เราทำใจค่ะ
เราสร้างกำลังใจให้ครอบครัวกันยังไง ในวันที่คุณแม่รักษาตัว?
เราจะพูดกันว่าคุณแม่อยู่ได้ด้วยความเชื่อของเราว่าคุณแม่จะลุกขึ้นมาได้ค่ะ คุณหมอจะบอกว่าครอบครัวนี้เป็นครอบครัวที่กำลังใจดี คือถ้าเป็นญาติท่านอื่นๆก็จะถอดใจและลดการช่วยเหลือลง แต่ครอบครัวเรามีความหวังและเชื่อให้มากที่สุดค่ะ คุณหมอก็บอกว่าคุณแม่แย่มากๆนะ ให้ทำใจไว้ก่อน แต่ครอบครัวเราไม่เคยทำไจไว้เลย และเชื่อว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น พอวันนึงที่เราเห็นร่างกายคุณแม่แย่ลงก็แจ้งกับท่านว่าทุกคนรักแม่มากๆเลย และให้คุณแม่เป็นคนเลือกเองค่ะ หนูจะคุยกับคุณแม่ตลอดค่ะ และเราจะใช้ทุกยาที่ช่วยคุณแม่ได้ค่ะ หนูก็บอกคุณแม่ว่าแม่อย่าใช้ตัวตัวนี้นะ เพราะเป็นยาตัวสุดท้ายแล้ว พอก่อนคุณแม่จะเสียคุณแม่ก็ต้องใช้ยาตัวสุดท้ายนี้จริงๆค่ะ เราก็ไม่รู้จริงๆว่าคุณแม่เสียตอนเวลากี่โมง เพราะยาตัวสุดท้ายนี้เป็นยาที่ช่วยกระตุ้นชีพจรด้วยค่ะ ซึ่งตอนใช้ยาคุณแม่ก็ไม่ไหวแล้ว คือเราก็มีหวังเสมอจนถึงวินาทีสุดท้ายค่ะ ก็บอกแม่ว่าสู้นะอีกนิดเดียว ก็ไม่เคยที่จะปล่อยมือจากท่านเลย ก็จะบอกว่าถ้าไหวให้สู้ต่อ แต่ถ้าเหนื่อยแล้วและจากไปอย่างสงบหนูก็ให้คุณแม่ได้เลือกชีวิตตัวเองค่ะ
เราดูเข้มแข็งขึ้นเยอะมาก?
เป็นช่วงเวลาที่เราได้ทำใจ ถามว่าเข็มแข็งมั้ย หนูว่าทุกคนที่เคยสูญเสียจะรู้ว่าความรู้สึกมันเป็นยังไง มันอาจจะดูเหมือนไม่ได้ร้องไห้ตลอดเวลา แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เรานึกถึง มันก็จุกจริงๆค่ะ งานวันนี้ก็ทำให้เต็มที่ด้วยตัวเองและได้รับความความช่วยเหลือจากพี่ๆที่สนิทค่ะ คุณแม่เป็นักสู้มาตั้งแต่เด็กๆเลยค่ะ จนวันที่คุณแม่รักษาตัวก็สู้จนคุณหมอคิดว่ามันเป็นปาฏิหาริย์สำหรับ 3 เดือนค่ะ
ทางครอบครัวมีคำพูดที่ได้ระลึกถึงคุณแม่ยังไงบ้าง?
คุณแม่จะอยู่ในใจเราตลอดไปค่ะ และการจากไปของคุณแม่เป็นการจากไปแค่เพียงชั่วคราว ถ้าหลายท่านที่เป็นคริสเตียนจะรู้ว่าเป็นการจากไปแค่เพียงชั่วคราว เดี๋ยวเราก็จะไปเจอกันอีกทีบนสรวงสวรรค์ คือจริงๆท่านไม่ได้ลำบากอะไรเลย แต่คนที่อยู่ก็จะทุกข์ใจ และหลักๆเลยหนูก็ไม่เคยเห็นคุณพ่อเป็นแบบนี้เหมือนกันค่ะ คือท่านก็ร้องไห้ตลอดเวลา หนูก็ต้องส่งคุณพ่อเข้านอนก่อน คือคุณพ่อคุณแม่อยู่กันมา 40 ปี อยู่ด้วยกันตลอดเวลาค่ะ คือหน้าที่เราไม่ใช่ต้องมาเสียใจทุกข์ใจ วันนี้เราทำหน้าที่ลูกของแม่ที่ดีแล้ว(ร้องไห้) เราก็ต้องทำให้ดีที่สุดต่อพ่อของเราเช่นกันค่ะ
มีอะไรอยากพูดถึงคุณแม่อีกครั้งมั้ย?
ไม่มีอะไรเลยค่ะ จริงๆทุกคนในครอบครัวก็อยากที่จะจากไปอยู่กับคุณแม่เหมือนกันค่ะ เพราะโลกที่คุณแม่อยู่คงสวยงามมากๆ ขนาดแม่รักเรามาก แม่ยังเป็นคนเลือกเองเลยว่าที่จะจากไปอย่างสงบ ก็อยากบอกแม่ว่าแม่แค่ไปรอเราชั่วคราว วันนึงเราก็จะได้ไปอยู่ด้วยกัน จะไม่มีการลากันค่ะ
หลังจากนี้จะมีพิธีทางศาสนายังไงบ้าง?
จะมีพิธีแบบเดิมในวันพฤหัสค่ะ วันศุกร์จะทำพิธีเคลื่อนย้ายร่างคุณแม่จากโรงพยาบาลสู่โลงศพค่ะ และจะไปฝังที่จังหวัดสระบุรีค่ะ